ข่าว

รวบสาววัย41ตุ๋นเหยื่อร่วมลงทุน“ไฟแนนซ์” 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบรวบสาววัย 41 ตุ๋นเหยื่อร่วมลงทุน"ไฟแนนซ์" ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คัน รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

   


          เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 11 ตุลาคม 2559  พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.ปกรษณ์เกียรติ พงษ์ธนนิกร สว.กก.2 บก.ป. ร่วมกันแถลงการจับกุม น.ส.รุ่งรัตน์ หรือนรีรัตน์ บานชื่น อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/47 หมู่ 7 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 645/2559 ลงวันที่ 8 กันยายน 2559 ในความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค พ.ศ.2535 โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 25/45 หมู่ 8 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
        
         พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปี 2556 จนถึงเดือนกันยายน 2559 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวก จัดตั้งบริษัท โพสเกรส ดีเวลลอปเม้นท์ (200) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 46/112 หมู่ 8 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.ประกอบธุรกิจเต็นท์รถยนต์มือสอง และรับจำนำรถยนต์ พร้อมกับจัดไฟแนนซ์รถยนต์มือสอง โดยได้หลอกลวงผู้เสียหายหลายรายให้นำเงินมาร่วมลงทุนจัดไฟแนนซ์ ซึ่งอ้างว่าจะให้เงินปันผลเป็นค่าตอบแทนร้อยละ 2 ต่อเดือน แต่กลับไม่จ่ายเงินปันผลตามที่กล่าวอ้าง    นอกจากนี้ในกรณีการรับจำนำรถนั้น ก็จะอ้างว่าต้องนำรถไปตรวจสภาพ แล้วเบียดบังนำรถที่รับจำนำไว้ไปขายต่อให้ผู้อื่นโดยสวมทะเบียนใหม่ เบื้องต้นพบว่าก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คัน รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
        
         จากนั้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ โดยทางชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ได้ตรวจสอบข้อมูลจนสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีคดีไปอาศัยอยู่ที่บ้านพักย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงวางแผนติดตามจับกุมไว้ได้ในที่สุด จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่อีก 5 หมาย ประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 749/2559 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 , ที่ 228/2559 ลงวันที่ 4 เมษายน 2559 ในความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค และ ที่ 170/2559 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2559 ข้อหาฉ้อโกง ปลอมและใช้เอกสารปลอม , หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ บจ.226/2559 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 943/2558 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ข้อหายักยอกทรัพย์
        
         ด้านทนายความของผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามาทำทีติดต่อกับผู้เสียหายซึ่งขอให้ช่วยเหลือนำเงินมาลงทุนทำธุรกิจรับจัดไฟแนนซ์รถยนต์ โดยจะค่าตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 2 ของเงินลงทุนทุกเดือน ซึ่งช่วงแรกๆ ยอมรับว่าทางผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนจริง จึงลงทุนเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนกว่า 9.5 ล้านบาท แต่ระยะหลังผู้ต้องหา กลับไม่ยอมจ่ายเงินค่าตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ โดยอ้างว่าขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากมีผู้นำรถมาเข้าไฟแนนซ์เป็นจำนวนมาก จึงให้ทำสัญญารับสภาพหนี้ขึ้น พร้อมกับสัญญาว่าจะทยอยผ่อนคืนเงินให้ผู้เสียหาย โดยชำระด้วยเช็คเงินสด แต่ภายหลังนำเช็คไปขึ้นเงินธนาคาร กลับไม่สามารถขึ้นเงินได้ หรือเช็คเด้ง จึงแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว
        
         สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้กระทำความผิดดังกล่าวจริง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่ร่วมกระทำความผิด และตรวจสอบเรื่องการปลอมแปลงทะเบียนรถที่ใช้ในการกระทำความผิด โดยชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดมีนบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ