รวบโจ๋เลือดร้อนยิงเด็กวัย12ปีดับ

               จากเหตุการณ์โจ๋เคืองพ่อเลี้ยงขับรถจักยานยนต์ปาดหน้า ย้อนกลับมาดักยิงพลาดเป้าถูกลูกเลี้ยงดับคาที่ คือ ด.ช.ธนภูมิ ที่นั่งรถซ้อนท้ายมากับ นายอนุพงษ์ ขิกขำ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 175 ม.5 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง ได้ขับรถจยย. ถนนสายควนสีนวล-นาปด เพื่อจะไปซื้อบุหรี่ที่ร้านค้า เมื่อถึงร้านค้าได้ขับรถปาดหน้ารถจยย. มีวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังจะขับรถออกจากร้านค้า ซึ่งแสดงอาการไม่พอใจ เมื่อนายอนุพงษ์ขับรถออกมาจากร้านค้า มุ่งหน้าไปทางควนสีนวลประมาณ 700 เมตร วัยรุ่นที่ไม่พอใจได้ขับรถเข้ามาประกบทางด้านขวาแล้วใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ยิงจำนวน 1 นัด ซึ่งตั้งใจยิงพ่อเลี้ยงแต่กระสุนพลาดไปโดน ด.ช.ธนภูมิเข้าอย่างจัง บริเวณกกหูขวาเกือบทะลุแก้มซ้าย ถูก ด.ช.ธนภูมิ เสียชีวิตทันทีและคนร้ายได้ขับรถจยย.หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อตอนหัวค่ำของคืนวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา
               หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามสืบสวนสอบสวนติดตามจนทราบชื่อมือปืน และออกหมายจับได้ในที่สุดคือ นายคฑายุทธ แต้มเฒ่า อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/2 หมู่ที่ 5 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ในข้อหาฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควรหรือเร่งด่วน โดยเจ้าหน้าที่พยายามประสานและกดดันอย่างหนักผ่านญาติ เพื่อให้ออกมามอบตัว แต่ไม่เป็นผล โดยผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ตามบ้านญาติ และล่าสุดเจ้าหน้าที่ทราบว่า ยังพยายามจะหลบหนีออกนอกพื้นที่อีกด้วย
               จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบสถานที่หลบซ่อนแน่ชัด จึงได้จัดกำลังนำโดย พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยโรจน์ โพธิปฐม ผกก.สภ.นาโยง เข้าทำการปิดล้อมจับกุมเมื่อตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมา (30 กย.) ภายในบ้านเลขที่ 4/2 ม.5 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของญาติ เมื่อไปถึงพบว่าบ้านปิด จึงได้เรียกให้เจ้าของบ้านเปิดประตูให้ ซึ่งเจ้าของบ้านได้ออกมาเปิดประตู โดย พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ได้เข้าพูดคุยกับเจ้าของบ้านและได้แจ้งให้ทราบว่าได้สืบทราบมาอย่างแน่ชัดแล้วว่าทางผู้ต้องหาได้มาหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ซึ่งเจ้าของบ้านแจ้งว่าตนเองไม่รู้เรื่อง เนื่องจากปิดบ้านไว้ 2 วันแล้วเพราะไปงานศพญาติและเพิ่งกลับเข้ามา ซึ่งตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในบ้านโดยไม่มีหมายค้น
               จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีห้องนอนอยู่ห้องหนึ่งที่ล็อกจากด้านในจึงได้ตะโกนเรียกชื่อผู้ต้องหาดังกล่าว สักครู่ผู้ต้องหาจึงเปิดประตูออกมา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว พร้อมทำการตรวจค้นหาอาวุธ พบอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ไมมีหมายเลขทะเบียน ซึ่งใช้กับกระสุนปืนขนาด.22 มม. จำนวน 1 กระบอก และน้ำต้มพืชกระท่อมผสมยาแก้ไอ จำนวน 1 ขวด ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นของตนเอง ส่วนรถจักรยานยนต์ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจยึดไว้ได้แล้วก่อนหน้านี้
               ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาที่ สภ.นาโยง เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุม โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา และนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.นาโยง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป