ข่าว

ปอศ.รวบ“แก๊งสกิมเมอร์”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปอศ.รวบแก็งสกิมเมอร์ชาวจีน4รายเงินสด113,500บาทเครื่องบันทึกข้อมูลแถบแม่เหล็ก-โน้ตบุ๊ก3เครื่องอีกรายจับกุม2ไนจีเรียใช้ATMที่ถูกขโมยมาตระเวนกดเงินแถวบางนา

        
          บก.ปอศ.  เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 29 ก.ย.59 พ.ต.อ.ปภัชเดช เกตุพันธ์ รองผบก.ปอศ. พ.ต.อ.พุฑฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ธนัยวุฒิ กมลวานนท์ สว.กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติรวม 2 คดี ประกอบด้วย 1.จับกุมแก๊งสกิมเมอร์ชาวจีน 4 รายคือ MR.HUANG KUN (นายหวัง คุน) อายุ 31 ปี MR.ZHAO BIAOYI (นายเจ้า เปี่ยว ยี่) อายุ 33 ปี MR.YI WEIFENG (นายอี เหวีย ฟง) อายุ 37 ปี และ MR.LANG DAGONG (นายหลั่ง ตา กง) อายุ 28 ปี พร้อมของกลางบัตรเครดิตปลอม 9 ใบ เงินสด 22,700 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 113,500 บาท เครื่องบันทึกข้อมูลแถบแม่เหล็ก (เครื่องสกิมเมอร์) จำนวน 2 เครื่อง และโน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง  

          2.จับกุมชาวไนเจอร์ 2 รายคือ MR.LAOUARI HASSANE BABALE (นายลาอูแล ฮัสซัน บาบาเล่) อายุ 38 ปี MR.AWAISOU IBRAHIM (นายเอวายซู อิบราฮิม) อายุ 38 ปี พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็มธนาคารประเทศไนจีเรียจำนวน 215 ใบ เงินสด 34,200 บาท 
        
          พ.ต.อ.ปภัชเดช กล่าวว่า สำหรับคดีแรกสืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 14.30น. วันที่ 27 ก.ย. เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าแก๊งชาวจีนดังกล่าวมีพฤติกรรมทำบัตรเครดิตปลอมและนำบัตรเครดิตที่ได้ทำปลอมไปรูดซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังไปตรวจสอบกระทั่งทราบว่า แก๊งนี้ได้เปิดโรงแรมแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง (โรงแรมอมรันตา) ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการปลอมบัตรเครดิต ต่อมาพบว่าผู้ต้องหาจีนทั้ง 4 ราย กำลังเตรียมตัวย้ายสถานที่พัก และมีการเคลื่อนย้ายกระเป๋าสัมภาระ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นกระเป๋าพบของกลางจำนวนดังกล่าว ก่อนคุมตัวมาสอบสวนต่อยัง กก.5 บก.ปอศ. เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมอันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ปลอมหรือแปลงขึ้น, ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีต่อไป 
        
          พ.ต.อ.ปภัชเดช กล่าวอีกว่า ต่อมาเวลา 16.30น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทำการสืบทราบมาว่า มีชาวไนเจอร์ตระเวนใช้บัตรเอทีเอ็มของธนาคารประเทศไนจีเรีย กดตามตู้กดเงินสดอยู่ที่ย่านนานา จึงออกไปตรวจสอบกระทั่งพบนายลาอูแล กำลังใช้บัตรเอทีเอ็มทำรายการกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย สาขานานาเหนือ ตรวจสอบภายในตัวพบบัตรเอทีเอ็มอีกจำนวน 16 ใบ จากนั้นขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท (โรงแรมนิว อัลจาซีร่า) พบนายเอวายซู อิบราฮิม ซึ่งเป็นเพื่อนของนายลาอูแล นั่งอยู่ภายในห้องและเข้าตรวจค้นพบบัตรเอทีเอ็มอีกจำนวน 199 ใบและเงินสด 34,200 บาท จากการสอบปากคำผู้ต้องให้การรับสารภาพว่า ตนทั้งสองได้นำบัตรเอทีเอ็มของชาวไนจีเรียจำนวนดังกล่าวที่อยู่ในประเทศไนเจอร์ นำเข้ามาในประเทศไทย แล้วตระเวนกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มบริเวณถนนสุขุมวิทย่านนานา ก่อนจะถูกจับกุมตัวดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. พร้อมทั้งแจ้งข้อหา “ใช้และร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสดหรือเบิกถอนเงินสด” 
        
          “ทั้งนี้ อยากจะฝากประชาสัมพันธ์ไปยังห้างร้านหรือสถานบริการและผู้ประกอบการหากมีชาวต่างชาติที่ต้องสงสัยมีพฤติกรรมในลักษณะรูดบัตรเครดิตขอให้ทำการตรวจสอบว่าบัตรนั้นๆ เป็นบัตรจริงหรือปลอม เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มากระทำความผิดในประเทศไทย ซึ่งจะเกิดผลเสียหรือผลกระทบกับความเชื่อมั่นทางระบบการเงินของประเทศ” พ.ต.อ.ปภัชเดช กล่าวทิ้งท้าย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ