ข่าว

รวบหนุ่มแสบหลอกซื้อสิ้นค้าอบแห้ง เชิดหนี30ครั้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบรวบพ่อค้าแสบ เปลี่ยนชื่อหลอกรับซื้อสิ้นค้าอบแห้ง เชิดหนี 30 ครั้ง ค่ากว่า 5 ล้านบาท

               เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 ก.ย.59 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.กก 1 บก.ป. พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง รอง ผกก.กก.1 บก.ป. และ พ.ต.ต.ศราวุธ จันตะวงค์ สว.กก.1 บก.ป ร่วมกันแถลงการจับกุม นายทินกร อู่ไทย 46 ปี หรือ นายเรืองโรจน์ กิตติยาธรกุล ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ 1577/2552 ลงวันที่ 8 ก.ย.52 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณร้านข้าวต้มทองเจริญ ซอยลาดปลาเค้า 76 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
               พ.ต.ต.ศราวุธ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายหลายรายว่า ถูกนายทินกร โดยใช้นามแฝงว่า นายเรืองโรจน์ กิตติยาธรกุล อ้างตัวเองว่าเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับอาหารทะเล อาหารอบแห้ง ประเภทลําไย มะม่วงหิมพานต์ กุ้งแห้ง และสินค้าอื่นๆ ซึ่งได้เข้ามาหลอกลวงผู้เสียหายที่มีอาชีพค้าขาย โดยบอกผู้เสียหายว่าจะขอรับซื้อสินค้าจากผู้เสียหายโดยให้ราคาที่สูงกว่าท้องตลาด ทําให้พ่อค้าแม่ค้าหลงเชื่อและขายสินค้าให้ หลังจากผู้เสียหายส่งสินค้ามาให้แล้ว นายทินกรก็จะหลบหนีไปและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
               พ.ต.ต.ศราวุธ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีการใช้ชื่อแฝงอีกหลายชื่อ เช่น นายสุเทพ แซ่โง้ว หรือสุเทพ หรือหนุ่ย หรือเทพ ซึ่งเป็นชื่อที่ผู้ต้องหาได้จากการนําบัตรประชาชนของผู้อื่นมาแสดง และในบางครั้ง ผู้ต้องหาจะทําการตั้งชื่อขึ้นมาเอง เพื่อเป็นการหลอกผู้เสียหาย อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.1 บก.ป. ได้ทําการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อนที่จะวางแผนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว
               จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 30 ครั้ง โดยได้มูลค่าของสินค้าแต่ละครั้งประมาณ 60,000-1,000,000 บาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท โดยเริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน มีพฤติการณ์คือเข้าไปติดต่อกับผู้เสียหาย พูดจาหว่านล้อมให้ดูมีความน่าเชื่อถือ และแสดงตนเป็นผู้อื่นโดยหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อจริง นามสกุลจริงของตนเอง นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมหลอกขายสินค้าอื่นให้แก่ผู้เสียหายอีก โดยจะหลอกให้ผู้เสียหายทําการโอนเงินค่าสินค้าให้ก่อนและจะมีการนัดส่งสินค้าภายหลัง แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเรียบร้อย ผู้ต้องหาก็จะหลบหนีและไม่สามารถติดต่อได้อีก
               พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต กล่าวเสริมว่า ทางเจ้าหน้าที่ฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อบุคคลในลักษณะดังกล่าว หากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหรือพบเบาะแสการกระทําความผิด ให้แจ้งมายังหมายเลขโทรศัพท์ 0-2513-1273 ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับประวัติผู้ต้องหาดังกล่าวมีประวัติการกระทําความผิดในข้อหาฉ้อโกง จํานวน 4 คดี และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เช็ค จํานวน 1 คดี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ