โผนายพลฉลุย "จักรทิพย์"ดันเพื่อนผงาดยกแผง-ศานิตย์ยังเหนียว

           เมื่อบ่ายวานนี้(28ก.ย.) ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 10/2559 โดยมีวาระสำคัญการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายผู้บังคับการ(ผบก.) ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) วาระประจำปี 2559 โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รองผบ.ตร. นายวิสูตร ประสิทธิ์ศิริวงศ์ เลขาธิการกพ.ร่วมประชุม ขณะที่พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผบ.ตร. ที่เพิ่งมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ให้พ้นจากตำแหน่งโอนย้ายเป็น ผู้ตรวจราชการพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี(นักบริหารระดับ11) นั้น ได้ทำหนังสือลาประชุมและไม่ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้แต่อย่างใด

          เมื่อพล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้หารือกับผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ได้เข้าหารือก่อนการประชุมที่ห้องพรหมนอก นานกว่า 30 นาที ก่อนเข้าประชุม ก.ตร. โดยใช้เวลาประชุมพิจารณาประมาณ 3 ชั่วโมง

          ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า วันนี้(28 ก.ย.)การประชุม ก.ตร. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีการเปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อยมาก และในพื้นที่เกี่ยวกับความมั่นคงก็มีการปรับเปลี่ยนบ้างเหมือนกับทุกปี ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการพิจารณาแต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร. ถึง ผบก. ทั้งเลื่อนขึ้น และโยกสลับ จำนวน 321 ตำแหน่ง

          รายงานข่าวแจ้งว่าก.ตร. ได้พิจารณาอนุมัติรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายรองผบ.ตร. -ผบก.วาระ2559 ตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ดังนี้ ระดับ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ10) เป็น รองผบ.ตร. , พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา(สบ10) เป็นรองผบ.ตร. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ10) เป็นจเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้ช่วยผบ.ตร.ได้รับพิจารณาคุณสมบัติเหมาะสมเป็นรอง ผบ.ตร.

        ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร เลื่อนเป็นที่ปรึกษา (สบ 10) ประกอบด้วย พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งเป็น นรต.37 ลูกเขยเกษตรรุ่งเรืองพืชผล ทำผลงานชิ้นโบแดงทลายแชร์ยูฟัน พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ นรต.36 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. ซึ่งมีฝีมือเจนจัดงานสืบสวน พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม

        สำหรับระดับผู้บัญชาการขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้แก่ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. ,พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผบช.ศ., พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตวรชัย นายตำรวจอีกคนที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ,พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ซึ่งก่อนหน้านี้เจอคำสั่ง คสช.และ ตร.ย้ายด่วนมาอยู่ ศปก.ตร. จากการค้ามนุษย์ในพื้นที่ และ พล.ต.ท.ธเนตร พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 นรต.34 รุ่นเดียวกับ ผบช.น.ที่มีสายขั้วอำนาจทหารหลายขั้ว

         ระดับ ผู้บัญชาการ ได้แก่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร นรต.34 เก้าอี้แข็งเป็นผบช.น.ที่เดิม ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีกระแสว่าจะถูกสลับไปนั่ง ผบช.ภ.1 เปิดทางให้กับเพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. แต่ด้วยเป็นนายตำรวจค่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงกอดเก้าอี้เอาไว้แน่น พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 เพื่อนร่วมรุ่น นรต.36กับ ผบ.ตร. ย้ายสลับเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รรท.ผบช.ภ.9 เป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ชนสิษฐ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.6 สลับนั่งผบช.ภ.3

          พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผบช.ภ.4เป็นผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รองผบช.น. เป็นผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.3 นรต.34 โยกสลับเป็น ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รองผบช.ภ.7 เป็น ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.เทศา สิริวาโท นรต.35 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ สายตรงของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังเก้าอี้แข็งเป็นผบช.ภ.8 ที่เดิม และ พล.ต.ต.สาคร ทองมุนรี รองผบช.ศชต.เป็น ผบช.ภ.9, และ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผบช.ภ.1 ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผงาดขึ้นเป็น ผบช.ศชต. คุมงานความมั่นคงแดนใต้

         สำหรับ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ยังคงเป็นผบช.ก. พล.ต.ต.เทพ อมรโสภิต รองผบช.ตชด. เป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผบช.ก. เป็น ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.น. นรต.36 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. อีกคน ขึ้นเป็น ผบช.ส. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผบช.ส.เป็น ผบช.ศ. พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบช.น. เป็น ผบช.กมค. พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผบช.สยส.ตร.เป็น ผบช.สยส.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผบช.สง.กตร. เป็น ผบช.รร.นรต. ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีกระแสมาแรงว่า พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.จะไปนั่งแท่น แต่ก็สามารถซงทางโค้งเข้าป้าย เ้วยสายสัมพันธ์อันดีกับ ผบ.ตร. 

          พล.ต.ต.โชติกร สีมันตระ รองแพทย์ใหญ่ เป็น ผบช.สง.ก.ตร. พล.ต.ต.ติณภัทร์ ภุมรินทร์ รอง ผบช.ภ.5 เป็นผบช.สกบ. พล.ต.ต.นพ.วิทูรย์ นิติวรางกูร รองแพทย์ใหญ่ เป็นนายแพทย์ใหญ่ พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม รองผบช.ภ.7 เป็นผบช.สงป. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รองผบช.ก.เป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข รองผบช.ภ.2 เป็น ผบช.สพฐ.ตร พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น.เป็นผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ รองผบช.ภ.9 เป็น ผบช.ประจำฯ พล.ต.ท.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ จตร.เป็นหัวหน้า จตร.

 

         ขณะที่ พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. นรต.41 อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. เป็น รองผบช.น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท.สายตรงพล.อ.ประวิตร เป็น ผบก.สปพ.(191), พ.ต.อ.ประเสริฐ เงินยวง รอง ผบก.ทท. เป็น ผบก.ทท. พ.ต.อ.ภาณุมาส บุญญลักษณ์ รองผบก.สปพ. ขึ้น ผบก.น.2, พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผบก.ปคบ. เป็น ผบก.สท.พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ปทส. นรต.37 ลูกหม้อกองปราบฯ กลับมาผงาดเป็น ผบก.ป.,

          พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ที่โดนคำสั่งเด้งเข้ากรุ ศปก.ตร. ในช่วงที่มีการจับกุมคดี 112 โดยมีสารวัตรเอี๊ยดก่อนหน้านี้ เป็น ผบก.ศฝร.ภ.7, พล.ต.ต.อนิกธัญญ์ ชยสุทธา ผบก.สท. เป็น รองผบช.ตส. ,พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผบก.ปคบ. เป็น ผบก.สท. พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.กระบี่ เป็น รองผบช.ภ.8 พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผบช.ส.เป็น รองผบช.ภ.5 พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบก.จร.เป็น ผบก.อ่างทอง พล.ต.ต.ก่อเกรียติ วงศ์สุเมธ ผบก.มหาสารคามเป็น ผบก.สุรินทร์ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.ยะลา สายตรง พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็น ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. นรต.35 มือขวางานสืบสวนของนครบาลและยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็น รองผบช.ภ.1

          รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งนายพลตำรวจครั้งนี้ นรต.36 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. ส่วนใหญ่ขยับขึ้นและย้ายสลับไปอยู่ในหน่วยงานหลัก ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ตามมาคือ นรต.35 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังคงได้รับความไว้วางใจในหน่วยงานที่มีความสำคัญ เกี่ยวเนื่องกับงานความมั่นคงเช่นกัน

(รายชื่อนายพลตำรวจ 321 ตำแหน่ง)