ตร.คาดศพถูกหั่นแช่ตู้กว่า 8 ปี เชื่อปมรักร่วมเพศ

 

       ความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติแก๊งปลอมพาสปอร์ต โดยหลังการจับกุมได้เข้าตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหา โดยขณะตรวจค้นต้องตกตะลึงเมื่อพบศพชายผมทองถูกฆ่าหั่นศพแช่ไว้ในตู้เย็น ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างมีเพื่อนเอามาฝากไว้ ขณะที่ตำรวจเร่งสืบสวนขยายผลตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

        เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเพิ่มเติม นอกจากนี้ได้ประสานกับสถานทูตอเมริกาเพื่อหาข้อมูลการกระทำความผิดของทั้ง 3 ราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนพาสปอร์ตที่พบในที่เกิดเหตุมีการยืนยันอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็นของจริง 2 ราย คือ ของนายแอรอน เอโด อายุ 40 ปี และนายเจมส์ ดักลาส อีเกอร์ อายุ 63 ปี ส่วนของนายปีเตอร์ วิลเลียม จอห์นสัน อายุ 66 ปี คาดว่าจะเป็นพาสปอร์ตปลอม พร้อมกันนี้ได้สอบปากคำพยานที่เป็นคนขนตู้แช่มาเก็บไว้ที่บ้านพักในซอยเอกมัย 12 จำนวน 3 คนเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะนำมาส่งตั้งแต่เมื่อใด ส่งให้ใคร ไม่สามารถเปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นเรื่องในสำนวน

        ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้าและยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเพิ่มต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน สำหรับศพที่พบถูกหั่นในตู้แช่นั้นเชื่อว่านายปิเตอร์ วิลเลียม จอห์นสัน หัวหน้าแก๊งน่าจะรู้เห็นทั้งหมด แต่ถึงขณะนี้ยังไม่รับสารภาพหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนแนวทางการสอบสวนพบว่านายปีเตอร์ซื้อตู้แช่ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2551 และไม่ให้ผู้ใดเข้ามายุ่งเกี่ยว จึงเชื่อว่าศพดังกล่าวอาจเสียชีวิตมากว่า 7-8 ปีแล้ว สอดคล้องกับผลการตรวจพิสูจน์ที่พบว่าเสียชีวิตมานานแล้วทำให้ยากต่อการตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตคือใคร ส่วนสาเหตุที่เก็บศพไว้นั้นเมื่อคุยกับนักจิตวิทยาและวิเคราะห์เชื่อว่าอาจเป็นประเด็นรักร่วมเพศที่ต้องการเก็บศพไว้ใกล้ตัว เนื่องจากรักผู้เสียชีวิตมากจึงไม่ได้ทิ้งหรือทำลายศพ

          ขณะที่ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ผบช.สตม. กล่าวถึงกรณีการพิสูจน์สัญชาติของผู้ต้องหาแก๊งปลอมพาสปอร์ตว่า ล่าสุดทางสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ เอฟบีไอ ได้ยืนยันข้อมูลมาแล้วว่า นายกาเบรียล อารอน โทมัส และ นายเจมส์ ดักลาส อีเกอร์ 2 ผู้ต้องหาแก๊งปลอมพาสปอร์ตนั้น เป็นพลเมืองชาวอเมริกัน หลังจากที่ตม.ได้ส่งประวัติของ 2 ผู้ต้องหาให้ทางเอฟบีไอตรวจสอบ ส่วนนายปีเตอร์ วิลเลียม จอห์นสัน ที่ปรากฏชื่ออยู่ในพาสปอร์ต 10 กว่าเล่มยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นพลเมืองจากชาติใด ต้องรอการยืนยันจากทางเอฟบีไอและสถานทูตประเทศที่ปรากฏในพาสปอร์ต

          พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ตม.ได้จับแก๊งปลอมพาสปอร์ตได้อีก 4 ถึง 5 ราย ทั้งหมดเป็นชาวอเมริกัน และเป็นระดับมืออาชีพ ตอนนี้ถูกคุมตัวอยู่ที่ ตม. ซึ่งจะต้องสอบสวนว่าแก๊งปลอมพาสปอร์ตที่จับได้ก่อนหน้านี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้หรือไม่อย่างไร

         วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.สมภพ เองสมบูรณ์ นวท.สบ.5 กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าพบพนักงานสอบสวนสน.พระโขนง เพื่อประชุมหาหลักฐานเพิ่มเติมภายในอาคารพาณิชย์ เลขที่ 18/1 ซอยสุขุมวิท 56 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุพบศพชายต่างชาติซุกซ่อนอยู่ในตู้แช่ขนาดใหญ่บริเวณชั้นที่ 1 ของตึกดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง

          ต่อมาเวลา 11.50 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจเดินทางเข้าตรวจสอบที่อาคารพาณิชย์ดังกล่าวอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานวัตถุพยานเพิ่มเติมก่อนรวบรวมและส่งต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบภายในอาคารพบตู้แช่ยังเปิดใช้อยู่ตลอดเวลาหลังจากเกิดเหตุ จึงตรวจรอยคราบเลือดรวมถึงรอยนิ้วมือแฝงในจุดต่างๆ โดยจะเน้นเฉพาะรอบตู้แช่ขนาดใหญ่ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปแตะต้องหรือยุ่งเกี่ยวกับตู้ดังกล่าว

        พ.ต.อ.สมภพ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบยังอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานวัตถุพยานเพิ่มเติมทั้งสารเคมีและวัตถุที่เกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงการตรวจสอบตู้แช่ที่พบชิ้นส่วนชายต่างชาตินิรนามด้วย หากพบหลักฐานเพิ่มเติมจะส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อรวบรวมในสำนวนคดีต่อไป

        รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากการทำซีทีสแกนด้วยความละเอียด 0.2 มิลลิเมตร ก่อนส่งกลับมายังนิติเวช รพ.จุฬาฯ เวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา จากการตรวจพิสูจน์ร่างชายนิรนามต่างชาตินั้นพบว่าบริเวณช่วงลำคอบางส่วนหายไป อย่างไรก็ตาม ทางทีมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ จะทำการตรวจชิ้นส่วนอื่นๆ ของผู้เสียชีวิตต่อไป