ข่าว

“ครูกศน.”ร้องเจอ“แก๊งปาหิน”รู้ตัวคนร้ายแต่เรื่องยังเงียบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ครูสาว กศน.”วอนสื่อประสานตร.สภ.เดชอุดม จับแก๊งวัยรุ่นปาหินหลังเกิดเหตุมีผู้อ้างตัวเป็นจนท.ตร.ประสานพาผู้ก่อเหตุไกล่เกลี่ยนานกว่าสัปดาห์แต่ไร้ผล แถมขออย่าพึ่งแจ

 

          จากกรณีที่ มีผู้ใช้เพซบุ๊กชื่อ ชาคริต ทีนามาก โพสต์ภาพความเสียหายของรถยนต์พร้อมบรรยายภาพว่า “ผมจะทำงั้ยกับพวกเดนนรกนี้ ถ้าผมโชคร้าย ดีที่พวกมันปาก้อนหินบรรจุขวดเข้าโดนกระจกหน้ารถหล่ะ ผมไม่รถคว่ำตายหรอ โชคยังดีพลาดไปโดนประตูรถ มาแจ้งความเพิ่มเติมนะครับเจอตัวเเล้ว ใครที่โดนปาหินที่เนินสมบูรณ์เดชอุดม พรุ่งนี้  9 โมงเช้าเอามันให้ถึงที่สุด ” ในคอมเม้นท์ ระบุที่เกิดเหตุอยู่ถนน เดชอุดม - น้ำยืน ช่วงระหว่างบ้านโนนสมบูรณ์ก่อนถึงรอยต่อเขตอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี

          หลังจากที่มีการโพสต์ข้อความผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อเจ้าของเฟซบุ๊ก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจนพบ นางพิกุล วงศ์พุทธะ อายุ 35 ปี ครูประจำศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) แห่งหนึ่ง (เดชอุดม) ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า วันที่เกิดเหตุอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. คืนวันที่ 17 ก.ย.59 ตนเอง และแฟน นายชาคริต ทีนามาก เจ้าของเฟซบุ๊ก ได้กลับจากทำธุระโดยใช้เส้นทาง เดชอุดม - น้ำยืน ตนเองเป็นคนขับ นายชาคริตเป็นคนนั่งข้างเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านโนนสมบูรณ์ ต.โนนสมบูรณ์ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน ยื่นอยู่ข้างทาง หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นถือวัตถุลักษณะคล้ายขวดหรือก้อนหินอยู่ในมือเมื่อตนขับรถใกล้จะถึงกลุ่มวัยรุ่น คนที่ถือวัตถุที่คล้ายขวดหรือหินนั้นก็ปาเข้าใส่หน้ารถ แต่ด้วยรถวิ่งด้วยความเร็วขวดที่บรรจุหินจึงไปโดนบริเวณประตูด้านข้างทางซ้าย ประตูรถได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่โดนกระจกหน้ารถเพราะหากโดนกระจกหน้ารถก็ไม่รู้ว่าแฟนจะยังมีชีวิตหรือไม่

 

“ครูกศน.”ร้องเจอ“แก๊งปาหิน”รู้ตัวคนร้ายแต่เรื่องยังเงียบ

 

          นางพิกุล ยังเล่าต่อว่า หลังจากตั้งสติได้ตนเองและแฟนก็ได้เข้าไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อมาตรวจสอบพร้อมทั้งโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงมีสายตรวจเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ ตนจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่สายตรวจได้บอกว่าพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) ให้ไปแจ้งความก็แล้วกัน แต่ด้วยวันรุ่งขึ้นตนต้องไปคุมสอบเลยไม่ได้เข้าไปแจ้งความ ต่อมาได้มีคนโทรเข้ามาหาแฟน (ชาคริต) โดยแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนนี้พอจะทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันจันทร์ (19ก.ย.) เวลา 09.00 น. ให้เข้าไปพบที่สถานีตำรวจเดชอุดม เพราะจะได้นัดผู้ก่อเหตุมาไกล่เกลี่ยกัน แต่อย่าพึ่งแจ้งความแค่ลงประจำวันไว้ก่อน จนถึงเลยเวลานัด ก็ไม่พบผู้ก่อเหตุมาตามนัด แฟนจึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวน แต่กลับได้รับคำตอบว่าเดี๋ยวขอประสานงานก่อนปัจจุบันผ่านไปแล้วกว่า1อาทิตย์ ก็ยังไม่มีการติดต่อดำเนินการกับผู้ก่อเหตุแต่อย่างใดอาจจะเป็นเพราะผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ

 

“ครูกศน.”ร้องเจอ“แก๊งปาหิน”รู้ตัวคนร้ายแต่เรื่องยังเงียบ

 

          นายชคริตจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวให้เพื่อนๆ ที่ใช้ถนนเส้นที่เกิดเหตุได้ระวังตัว ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นหญิง ชื่อเก๋ (นามสมมุติ)ได้มาแสดงความคิดเห็นว่า ตนเองได้ขับรถเก๋งวีออส ผ่านจุดเกิดเหตุในวันที่ 18 ก.ย.59 ถัดจากตนเอง 1 วัน เวลาประมาณใกล้เคียงกัน เมื่อผ่านจุดดังกล่าวก็รู้สึกว่ารถส่ายจึงได้ชะลอรถเข้าข้างทางเพื่อจะจอดดูขณะนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นคล้ายกับกวักมือเรียกด้วยความกลัวว่าจะเป็นคนร้ายจึงได้บดล้อทั้งที่แบนจนไปถึงตัวอำเภอน้ำยืนจึงได้จอดดูรถพบว่ายางรถถูกตะปูแบน 2 เส้น โดยคุณเก๋ ได้โพสต์ภาพล้อรถที่โดนตะปูด้วย

 

“ครูกศน.”ร้องเจอ“แก๊งปาหิน”รู้ตัวคนร้ายแต่เรื่องยังเงียบ

 

          นางพิกุลกล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ตนเองออกมาพูดในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการความยุติธรรม  ต้องการเอาผู้ที่ก่อเหตุมาลงโทษ  ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใคร จะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่วัยรุ่นกลุ่มนี้กระทำลงไปมันเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นมาอาจจะมีคนเสียชีวิตก็เป็นได้ ตนต้องการความปลอดภัยบนท้องถนนมากกว่านี้ และอีกประการตนก็ไม่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่เพราะมีผู้ที่อ้างว่าเป็นตำรวจโทรมาแจ้งไม่ให้แจ้งความขอแค่ลงประจำวันไว้แค่นั้น ทั้งนี้จึงอยากจะวอนสื่อช่วยเป็นคนกลางประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ