ข่าว

เจ้าของเรือมรณะ28ศพ มอบตัวพร้อมปฏิเสธข้อหา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจ้าของเรือมรณะ 28 ศพ เข้ามอบตัวตำรวจพร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหา เจ้าอาวาสยันท่าน้ำสร้างมากว่า 15 ปี ใช้ป้องกันตลิ่งให้อาหารปลา

            ความคืบหน้าเหตุเรือท่องเที่ยวสองชั้นชื่อสมบัติมงคลชัย รับชาวไทยมุสลิมจาก ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ไปประกอบพิธีทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มัสยิดตะเกี่ย ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18  กันยายนที่ผ่านมา และขากลับขณะส่งผู้ที่มาร่วมพิธีได้เกิดชนกับแนวชะโงกริมเขื่อนหน้าวัดสนามไชย ทำให้เรือล่มและมีผู้เสียชีวิต 28 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก โดยนายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าให้ตรวจสอบเรื่องการสร้างเขื่อนหน้าวัดสนามไชย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

         เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 กันยายน พ.ต.ท.พิมุข นาคขำพันธ์ สว.งานสอบสวน พร้อมด้วย ร.ต.ท.พงศกร อินทร์หอม พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปที่วัดสนามไชย เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับแนวเขื่อนหน้าวัดสนามชัย โดยมีการวัดความกว้าของเขื่อนซึ่งอยู่ที่ประมาณ 120 เมตร และวัดระยะความห่างของแนวเขื่อนกับบริเวณที่ยื่นออกไปในแม่น้ำ ซึ่งพบว่ามีท่าน้ำที่สร้างยื่นออกไปจากแนวเขื่อน 3 ช่วง แต่ละช่วงมีความกว้างประมาณ 3 เมตร แต่มีเพียงช่วงเดียวที่มีการสร้างราวเหล็กขึ้นมาจากพื้นท่าน้ำ โดยระดับน้ำยังคงสูงทำให้เห็นราวเหล็กโผล่ขึ้นมาจากน้ำเพียง 1 ฟุตเท่านั้น ส่วนแนวระเบียงช่วงอื่นๆน้ำท่วมลึกอยู่กว่า 1 เมตรไม่สามารถมองเห็นได้

        จากนั้น พ.ต.ท.พิมุข ได้เข้าไปพบพระครูปลัดสมบัติ ศิริสุวรรโณ เจ้าอาวาสวัดสนามไชย ซึ่งอยู่ภายในพระอุโบสถ เพื่อขอทราบที่มาที่ไปของการสร้างเขื่อน โดยขอเอกสารที่ดินวัดและการก่อสร้าง ซึ่งทางวัดแจ้งว่าไม่มีเอกสารเรื่องการสร้างเขื่อน เนื่องจากสร้างมานานกว่า 15 ปี ก่อนที่พระครูปลัดศิริสุวรรโณ จะมารับตำแหน่ง ซึ่งเพิ่งมารับตำแหน่งเพียง 1 ปี 6 เดือนเท่านั้น  เจ้าหน้าที่จึงเชิญเจ้าอาวาสไปให้ปากคำสอบสวนในฐานะพยานในเรื่องของเขื่อนดังกล่าว

          พระครูปลัดสมบัติ เปิดเผยว่า มารับหน้าที่ได้ปีครึ่งไม่ทราบเรื่องการสร้างเขื่อน ทราบเพียงว่าสร้างมานาน 15 ปี เพื่อป้องกันแนวเขื่อน ป้องกันตลิ่งพังทลาย และเป็นจุดที่ประชาชนลงไปให้อาหารปลาและเทียบเรือบางครั้ง ซึ่งตั้งใจจะทำราวกันคนตกลงน้ำ แต่ไม่มีงบประมาณจึงสร้างไว้เพียงช่วงเดียว ยังคงเหลืออีกสองช่วง ส่วนการอนุญาตก่อสร้างนั้นเชื่อว่าคงอนุญาตถูกต้อง ไม่เช่นนั้นเจ้าท่าก็คงมาสั่งรื้อไปแล้ว ไม่ปล่อยมาจนทุกวันนี้ 

          ซึ่งในวันเกิดเหตุเชื่อว่าคนขับไม่ชำนาญร่องน้ำและไม่ทราบว่าบริเวณดังกล่าวมีระเบียบยื่นออกไป ตั้งแต่สร้างมาก็ไม่เคยมีเรือชน เพิ่งมีครั้งนี้ซึ่งเรือวิ่งเข้ามาใกล้เขื่อนมากจนชนระเบียงดังกล่าว  ถ้ามองว่าวัดสร้างแล้วทำให้เรือเข้ามาชนคงไม่ใช่ และหากให้รื้อถอนก็คงไม่ถูกเพราะยังมีท่าน้ำที่ใหญ่กว่าของวัดสนามไชยอีกมากมาย รวมถึงเรื่องการวางแนวทุ่นบอกจุดเสี่ยงก็เป็นหน้าที่เจ้าท่า ซึ่งหลังเกิดเหตุได้วางแนวทุ่นแล้ว

         ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นายสุนทร พันธ์เสือทอง เจ้าของเรือได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.งานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ธนัช แสงอรุณ พนักงานสอบสวน ร่วมสอบปากคำ พร้อมทั้งแจ้งข้อหาให้ทราบ คือ ร่วมกันใช้ยานพาหนะรับจ้างขนส่งโดยสารเมื่อยานพาหนะนั้นมีลักษณะหรือการบรรทุกนั้นจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลในยานพาหนะเป็นเหตุให้บุคคลอืนถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดมาตรา 233 และ 238 ประกอบกับมาตรา 59 วรรคสอง มาตรา 83 และร่วมกันใช้ยานพาหนะผิดเงื่อนไข หรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือและร่วมกันใช้เรือยนต์บรรทุกผู้โดยสารมากกว่าจำนวนที่แจ้งในใบอนุญาต สำหรับเรือลำนั้นและร่วมกันควบคุมเรือยนต์ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 155 อันเป็นความผิดมาตรา 155 175 161 ทวิ ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ประกอบกับกฎหมายอาญามาตรา 59 วรรคสอง มตรา 83 ซึ่งนายสุทรให้การปฎิเสธ 

           เจ้าหน้าที่จะได้ส่งตัวให้ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามขั้นตอน เพื่อขอประกันตัว โดยนายสุนทร กล่าวว่าไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ตนมีเรือเพียงลำเดียวเท่านั้น และไม่มีประกันเรือ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำเรื่องขอต่อใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว ส่วนลุงที่ขับเรือได้รับค่าจ้างเพียง 500 บาทเท่านั้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ