งงโจร!ลักบานหน้าต่างบ้านพระเอกลิเกไม่แตะทรัพย์

                เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 สิงหาคม พ.ต.ท.วีระศักดิ์ เมืองสุวรรณ สวป.สภ.บางปู และ ร.ต.อ.เอกพล อนุภักดิ์ รอง สวป.ได้รับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 999/114 ซอย 7 หมู่บ้านปัญฐิญา ถ.พุทธรักษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นทาวเฮาส์ 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณประตูทางเข้าด้านหลังซึ่งเป็นประตูเหล็กดัดที่ใช้โซคล้อง และล็อกด้วยกุญแจถูกคนร้ายใช้คีมตัดเหล็กตัดโซจนขาดก่อนเข้าไปลักทรัพย์ เป็นชุดหน้าต่างกระจกที่ติดตั้งอยู่ที่ชั้นล่างและชั้นบนไปจำนวน 6 ชุด มูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่ภายในบ้านยังอยู่ครบ รวมทั้งเครื่องประดับที่อยู่ในตู้โชว์ชั้นล่างก็ยังอยู่ครบเช่นกัน

                จากสอบถามนายธนวัฒน์ รวงผึ้ง อายุ 50 ปี พระเอกลิเกเงินล้าน เจ้าของบ้าน เล่าว่า ปกติจะเข้ามาที่บ้านอาทิตย์ละครั้ง เนื่องจากต้องดูแลกิจการร้านอาหาร “ลิเกรำส้มตำทอด” ที่ตนไปเปิดอยู่ที่ข้างที่ทำการ อบต.แพรกษา หารายได้เลี้ยงลูกคณะในช่วงที่ว่างจากงานเล่นลิเก และมักจะนอนค้างที่ร้านอยู่เป็นประจำ และกลับเข้ามาดูบ้านที่ซื้อเอาไว้อาทิตย์ละครั้ง โดยเมื่อช่วงสายของวันนี้หลังจากที่เคลียร์งานที่ร้านเสร็จจึงได้เดินทางกลับมาดูบ้าน ซึ่งมองจากด้านนอกก็ปกติทุกอย่าง แต่ที่สงสัยว่าหน้าต่างกระจกตนปิดไว้ทุกครั้งที่จะออกจากบ้าน แต่วันนี้ทำไมเวลาลมพัดผ่าม่านหน้าต่างที่ติดอยู่ด้านในจะปลิวไหวได้ จึงได้รีบเปิดประตูเข้าไปดู ก็ต้องตกใจเพราะหน้าต่างกระจกที่ติดตั้งไว้รอบบ้านจำนวน 6 ชุดได้ถูกคนร้ายถอดยกไปทั้งชุด เหลือเอาไว้เพียงเหล็กดัดที่คนร้ายไม่ได้ถอดไป จึงได้เดินสำรวจรอบบ้านพบว่าคนร้ายได้ใช้อุปกรณ์ตัดโซ่ที่ตนคล่องและล็อกกุญแจประตูเหล็กหลังบ้ายจนขาด ก่อนที่คนร้ายจะเข้ามาลักทรัพย์ แต่ที่แปลกคือคนร้ายไม่แตะต้องทรัพย์สินอื่น ๆ เลย เช่นรูป ร.5 ลายมุข ถ้วยเบญจรงค์และเครื่องประดับที่มีราคาที่ใส่ไว้ในตู้โชว์จำนวนมาก และเครื่องใช้ไฟฟ้า คนร้ายไม่แตะต้องเลย ทรัพย์สินยังอยู่ครบทุกอย่างเอาไปเพียงชุดบ้านหน้าต่างกระจกจำนวน6ชุดเท่านั้น

                ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 999/6 ซอย 1 หมู่บ้านเดียวกัน มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์แอร์ ไปจำนวน 2 เครื่อง และกำลังขับรถกระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีแดง ทะเบียน 7 ฎ 5513กรุงเทพมหานคร ที่กระบะด้านหลังบรรทุกเครื่องปรับอากาศ ยี่ห้องซัมซุง อยู่จำนวน 2 เครื่อง พร้อมคอมเพรสเซอร์ มุ่งหน้าออกไปทางหน้าหมู่บ้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ให้ช่วยสกัดรถคันดังกล่าวเอาไว้ได้ที่ป้อมยามทางเข้า ก่อนนำกำลังเดินทางเข้าตรวจสอบ ได้พบเจ้าหน้าที่ รปภ.ของหมู่บ้านดังกล่าวสามารถสกัดรถกระบะคันดังกล่าวเอาไว้ได้ พร้อมด้วยชายต้องสสงสัย 3 คน ประกอบด้วย นายวชิระ ทองอินทร์ อายุ 24 ปี พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับที่เกิดเหตุ นายวันเฉลิม หนูนา อายุ 23 ปี และนายไชยา ต้นสา อายุ 29 ปี คนขับรถกระบะ ที่ด้านท้ายกระบะบรรทุกแอร์อยู่จำนวน 2 เครื่องตรงตามที่ได้รับแจ้งมา จึงคุมตัวไว้ทำการสอบสวน

                จากการสอบสวนนายวชิระ ให้การรับสารภาพว่า ตนพักอยู่ในหมู่บ้านปัญฐิญา อยู่ในซอย 2 ใกล้กับบ้านหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งตนเดินผ่านทุกวันและสังเกตเห็นว่าที่บ้านเลขที่ 999/6 ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอย 1 ไม่มีคนอยู่ จึงเดินเข้าไปดู  จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนจึงได้ย่องเข้าไปทำการถอดกระจกหน้าต่าง และชุดประตูกระจกวางกองรวมเอาไว้ เพื่อเตรียมที่จะขนย้ายออกไปขายที่นอกหมู่บ้านในเวลากลางคืน นอกจากนั้น ยังได้รื้อเอาแอร์ที่ติดตั้งอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวที่ติดตั้งเอาไว้จำนวน 2 เครื่องออกมากองรวมเอาไว้ที่ข้างบ้าน จนกระทั่งช่วงบ่ายตนจึงได้ขับรถออกไปตามรถรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าเข้ามารับซื้อแอร์ทั้งสองเครื่องไป โดยอ้างว่าแอร์ทั้งสองเครื่องเป็นของตนเอง ที่ขายเพราะต้องการจะย้ายบ้าน โดยขายได้ในราคาเครื่องละ 1,300 บาท 

                ส่วนที่ต้องก่อเหตุนั้น นายวชิระ อ้างว่า ตนเคยทำงานที่ร้านขายสุราแห่งหนึ่ง แต่เพิ่งถูกไล่ออกจากงานมาได้ไม่นาน ประกอบกับมีลูกน้อย และติดผู้หญิง ทำให้เงินไม่พอใช้ จึงตัดสินใจก่อเหตุเพื่อเอาเงินไปเลี้ยงลูกและปนเปรอหญิงสาวที่ตนติดพันธ์อยู่ และยอมรับว่าเพิ่งเข้าไปก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 999/6 เป็นครั้งแรก

                เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหามากนัก จึงแจ้งข้อกล่าวหากับนายวชิระ ว่าบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานผู้อื่นในเวลากลางคืน และลักทรัพย์ ส่วนนายวันเฉลิม และ นายไชยา เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ารับซื้อของโจร ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปู ดำเนินคดีตามกฎหมายและทำการสอบสวนขยายผลต่อไป