พล.ต.ต่อคุณ-หัวหน้าช่างภาพพบตร.ฐานะพยานคดี‘กิมเอ็ง’

              เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีแอบอ้างเบื้องสูง ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เข้าจับกุม นางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม หรือกิมเอ็ง แซ่เตียว อายุ 62 ปี พี่สาว นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1563/2559 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2559 ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม หลังจากพบพฤติกรรมออกรายการสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมทำบุญ จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้นางกมนทรรศน์ 17 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 2,979,300 บาท แล้วมีการออกหนังสือปลอม โดยใช้เวลาในการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งจึงเสร็จสิ้น

              พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีนางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง เพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) แล้ว โดยพบพฤติการณ์ว่านางกมนทรรศน์ ได้หลอกลวงนำเงินจากผู้เสียหายเกี่ยวกับเรื่องซื้อผลไม้ มูลค่ารวม 7 ล้านบาท

              พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวอีกว่า ส่วนนายทหารยศ พล.ต. และ พ.อ.ที่จะเข้าแจ้งความในฐานะที่ตกเป็นผู้เสียหายด้วยนั้น ขณะนี้ได้รับการประสานงานมาแล้ว ว่าจะเข้าแจ้งความในช่วงเย็นวันนี้ (30 ส.ค.) แต่เท่าที่ทราบก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้น่าจะมีผู้เสียหายในคดีเข้าแจ้งความแล้วประมาณ 5-6 ราย และสำหรับคดีนี้มีการสืบสวนขยายผล โดยเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว 2 ราย คือ นายถาวร พวงประทุม อายุ 66 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1651/2559 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2559 และนายสมศักดิ์ สิริยาคม ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และร่วมกันฉ้อโกง โดย พ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบก.ปคม. พร้อมกำลังได้เข้าจับกุมนายถาวรได้แล้ว เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ภายในบ้านพักย่านห้วยขวาง กทม. ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ ส่วนนายสมศักดิ์อยู่ระหว่างติดตามจับกุม

              รอง ผบช.ก.กล่าวด้วยว่า สำหรับพฤติการณ์ในการร่วมกระทำความผิดนั้น จะมีการแต่งตัวให้คล้ายเจ้าหน้าที่ ทำให้ประชาชนทั่วไปที่พบเห็นเกิดความเชื่อถือว่า เป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูง มีการนำของที่ได้รับแจกจากพิธีการต่างๆ มาดูแลและดำเนินการ ในส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้น คงไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นรายละเอียดทางคดี แต่ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบรัดกุม และจะเร่งสืบสวนขยายผล หากพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องอีกก็จะดำเนินคดีทั้งหมด

              “เชื่อว่าขบวนการนี้ น่าจะยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายราย เนื่องจากการตรวจสอบยอดเงินที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับมานั้นยังสูญหายไปอีกเป็นจำนวนมากนับสิบล้านบาท ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกกี่รายนั้น ยังตอบไม่ได้ แต่ก็คาดว่าน่าจะมีเยอะ เพราะขบวนการนี้ทำกันมานาน นับตั้งแต่นางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง ออกจากคุกมาก็ไม่ได้มีอาชีพอื่นใด นอกจากนี้ที่อ้างตัวว่าเป็นดอกเตอร์จบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่า เป็นเพียงการแอบอ้างว่าได้รับวุฒิดังกล่าว” พล.ต.ต.สมหมาย กล่าว

              ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้น่าจะมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า จากที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น่าจะเป็นไปในลักษณะที่ถูกนางกมนทรรศน์หลอกลวงมากกว่า คล้ายกับว่าถูกชักชวนไปเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้นางกมนทรรศน์ หรือหากมีบางส่วนที่กระทำผิด ก็น่าจะเป็นบุคคลที่เคยรับราชการจริง แต่พ้นหน้าที่ไปแล้ว อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้อีกครั้ง ในวันที่ 20 กันยายนนี้ คาดว่าน่าจะสรุปสำนวนคดีได้

              ทั้งนี้ มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนพบความเชื่อมโยงระหว่างนางกิมเอ็ง นายถาวร และนายสมศักดิ์ ว่ามีส่วนรู้เห็นและร่วมกันกระทำความผิด โดยพบหลักฐานชัดเจนเป็นรูปถ่ายขณะที่นางกิมเอ็งรับดอกไม้พระราชทานในงานวันเกิดจากสำนักพระราชวัง ซึ่งนายถาวรอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง เชิญพานแจกันดอกไม้มา ส่วนนายสมศักดิ์เป็นผู้มอบให้นางกิมเอ็ง

              ต่อมาเวลา 16.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม พล.ต.ต่อคุณ ภักดีชนก เจ้าของ หจก.ภักดีชนก พร้อมด้วย นายอาน้อม พงศ์กาญจนานุกูร หัวหน้าช่างภาพ เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และเข้าให้การในฐานะพยานในคดีนางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง ภายหลังปรากฏเป็นข่าวว่า หจก.ภักดีชนก ซึ่งเป็นผู้ผลิตวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติ มีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนางกมนทรรศน์ ทำให้ หจก.ภักดีชนกได้รับความเสียหาย

              พล.ต.ต่อคุณ กล่าวว่า ได้นัดทีมงานผู้ผลิตสารคดีเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน โดยตนรู้จักกับนางกมนทรรศน์ เมื่อประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ตนและทีมงานเดินทางไปลงนามถวายพระพรที่ศาลาสหทัยสมาคม หลังจากลงนามถวายพระพร เสร็จสิ้น นางกมนทรรศน์ก็ได้เข้ามาพูดคุยตีสนิท ผ่านการแนะนำจากบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งทำให้น่าเชื่อถือว่านางกมนทรรศน์รู้จักกับบุคคลชั้นสูง และได้ติดต่อกันเรื่อยมา จากนั้นตนมีโครงการที่จะผลิตสารคดีเฉลิมพระเกียรติ นางกมนทรรศน์ก็ขันอาสาโดยขอสมัครเป็นผู้ร่วมแสดงในวีดิทัศน์ดังกล่าว และช่วยเหลือในขั้นตอนการผลิตส่วนอื่นๆ แต่เมื่อปรากฏว่านางกมนทรรศน์ถูกจับกุมและมีภาพวีดิทัศน์จากสารคดีที่พวกตนจัดทำปรากฏออกมาทางสื่อต่างๆ ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าร่วมขบวนการกับนางกมนทรรศน์ จึงต้องเข้าแจ้งความในครั้งนี้

              “ในวันนี้ได้นำพยานหลักฐานต่างๆ ที่เป็นข้อความและรูปภาพต่างๆ ที่นางกมนทรรศน์ส่งมาให้ และทำให้หลงเชื่อว่านางกมนทรรศน์ รู้จักหรือใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูงจริง รวมทั้งจะนำรายชื่อผู้ที่แนะนำให้รู้จักกับนางกมนทรรศน์มาเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนต่อไป” พล.ต.ต่อคุณ กล่าว

              ด้าน นายอาน้อม กล่าวว่า ไม่ได้รู้จักกับนางกมนทรรศน์เป็นการส่วนตัว โดยนางกมนทรรศน์ได้เข้ามาสมัครเป็นนักแสดงในสารคดีดังกล่าว แล้วภายหลังก็มีการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการต่างๆ จึงหลงเชื่อนางกมนทรรศน์