รวบโชเฟอร์ฆ่าชิงทรัพย์ผู้โดยสาร รับเสพยาก่อนก่อเหตุ

               ความคืบหน้ากรณีที่นายวัชรินทร์ ประทุมพร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.16 บ้านดงเค็ง ต.หัวเรือ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม คนขับรถโดยสาร ป 2 ของบริษัท ร้อยเอ็ดเฉลิมเกียรติสวัสดิ์ จำกัด สายร้อยเอ็ด-บุรีรัมย์ เลขทะเบียน 10-4458 ร้อยเอ็ด เลขข้างรถ 275-6 ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางบุญเพ็ง ปัญโญ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.16 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา 

             เช้าวันนี้ (30ส.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วาปีปทุม เข้าจับตัวนายวัชรินทร์ ประทุมพร อายุ 26 ปี ที่กระท่อมกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านจอกขวาง ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.กันทรวิชัย โดยระหว่างชุดสืบสวน สภ.วาปีปทุม เข้าจับกุมนายวัชรินทร์ได้ต่อสู้ ทำให้ ด.ต.คมกริช มลาศรี และ ด.ต.สาธิต ประพาศพงษ์ ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจทั้งสองนายได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวาปีปทุมแล้ว               

              พ.ต.อ.วิศักดิ์ อินทรกรอุดม ผกก.สถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหา คือ นายวัชรินทร์ ประทุมพร หรือ ทุ่ง อายุ 26 ปี รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางบุญเพ็ง ปัญโญ อายุ 56 ปี ผู้โดยสารจริง และวันเกิดเหตุได้เสพยาบ้ามาก่อน เมื่อเห็นนางบุญเพ็งโบกรถึงจอดรับ ก่อนทำทีเป็นรถเสียช่วงใกล้ถึงตัวอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เมื่อซ่อมรถเสร็จจึงได้ขับรถต่อไป และได้จอดรถลงไปปัสสาวะบริเวณใกล้แยกบ้านยางบ่ออี ต.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ จากนั้นได้ขึ้นมาบนรถและได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้ตาย จากนั้นได้วกรถกลับมา อ.วาปีปทุม ก่อนขับรถเข้าหมู่บ้านหนองผือ ต.นาสีนวล อ.พยัคฆภูมิพิสัย ผ่านหมู่บ้านดงบาก-บ้านเหล่าน้อย เพื่อที่จะนำศพมาทิ้ง                 

              ส่วนของกลางคือสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ผู้ต้องหาบอกว่าได้นำไปทิ้งทุ่งนาใกล้ที่เกิดเหตุ เนื่องจากสร้อยขาด ส่วนสร้อยข้อมือน้ำหนัก 1 บาท ปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป หลังเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เดินลัดเลาะทุ่งนาไปเรื่อย ๆ เพื่อกลับบ้านเกิด หมู่บ้านดงเค็ง ต.หัวเรือ อ.วาปีปทุม อาศัยนอนตามกระท่อมกลางนา ซึ่งไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่วันนั้น ช่วงเช้าวันนี้มีรถเข็นขายปิ้งไก่ผ่านมาจึงเรียกซื้อ จากนั้นก็ไปนอนในกระท่อมกลางนา บ้านจอกขวาง ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด             

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างให้การกับเจ้าหน้าที่ผู้ต้องหามีอาการลุกลี้ลุกลน พูดกลับไปกลับมา คล้ายคนเมายา ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้า พนักงานสอบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย จะได้มารับตัว เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

              ด้านนายสุพิศ วัตรสุนทร อายุ 38 ปี เจ้าของรถบัสโดยสารคันเกิดเหตุ ได้รับการประสานจากตำรวจ ว่า จับกุมตัวนายวัชรินทร์ได้ ก็เตรียมเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ ไปพบตำรวจ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ท้องที่เกิดเหตุเพื่อให้ข้อมูลกับตำรวจ พร้อมทั้งไปติดต่อเรื่องรถบัสคันที่นายวัชรินทร์ใช้ก่อเหตุ ว่าจะนำรถออกมาได้เมื่อไรเพราะมีรถคันเดียวที่นำมาวิ่งร่วม หลังเกิดเหตุต้องขาดรายได้จากการวิ่งรถบัสซึ่งเป็นรายได้หลัก 

            หลังทราบว่าตำรวจจับตัวนายวัชรินทร์ได้ ก็รู้สึกคลายความกังวลจากที่ต้องอยู่ในภาวะเครียด เพราะเกรงคดีจะยืดเยื้อยาวนานซึ่งจะทำให้ไม่สามารถนำรถออกไปวิ่งได้ แต่หลังจับกุมได้ก็มั่นใจว่าคดีจะคลี่คลายโดยเร็ว ซึ่งตนจะได้นำรถออกมาประกอบอาชีพได้เร็วขึ้น พร้อมขอขอบคุณตำรวจที่ติดตามจับกุมตัวได้โดยเร็ว 

              นายสุพิศ กล่าวอีกว่า คดีเป็นหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะผู้ทำผิดต้องได้รับโทษกับสิ่งที่กระ ทำ เพราะสิ่งที่นายวัชรินทร์ กระทำไม่ได้ส่งผลกับนายวัชรินทร์คนเดียว แต่ส่งผลกระทบวงกว้างกับผู้ประกอบอาชีพรถโดยสารสาธารณะ ทำให้ผู้โดยสารขาดความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยที่จะใช้บริการรถโดยสาร โดยเฉพาะตนนอกจากเสียค่าซ่อมบำรุงรถแล้ว หากนำออกมาวิ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการปกติหรือไม่ ฝากวิงวอนผู้โดยสารหรือประชาชนเห็นใจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของบุคคลอย่าเหมารวม จากนี้จะตรวจสอบผู้ที่จะเป็นโชเฟอร์ให้รอบคอบ  

              ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้นก็ได้มอบเงินช่วยเหลือแล้วจำนวนหนึ่ง ส่วนเรื่องประกันต้องหารือกับบริษัทอีกครั้งหนึ่ง เพราะเท่าที่ทราบมีเพียงประกันอุบัติเหตุรวมเฉพาะเส้นทางวิ่ง แต่เหตุที่เกิดขึ้นเกิดนอกเส้นทาง