ปฏิบัติการ‘ครบุรีโมเดล’ปราบผู้มีอิทธิพล22จุดโคราช

              เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 ส.ค. พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. ,พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ พ.ต.ท.วิชรา ยาวไทสงศ์ รองผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม พ.ต.ท.ธีรพัฒน์ ธารีไทย รองผกก.3บก.ป. สนธิกำลังตำรวจกก.3 บก.ป.และคอมมานโดกองปราบ กว่า 148 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจค้นพื้นที่ 22 จุด ในพื้นที่ตำบลโคกกระชาย และตำบลบ้านใหม่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา โดยการตรวจค้นในครั้งนี้ กำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวตำรวจกองปราบปรามได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า ผู้ใหญ่บ้านดังกล่าวมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล เชื่อมโยงกับเครือข่ายการนำเข้าลักลอบขนยาเสพติดและไม้พยุงมาในพื้นที่ อย่างไรก็ตามจากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงสมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก รวมทั้งสมุดจดรายการเงินจำนวนหนึ่ง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้

              ขณะที่ด้านผู้ใหญ่คนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด และขบวนการค้าไม้พยูง แต่ยอมรับว่ามีญาติพี่น้องบางคน รวมถึงลูกชาย ที่ทำหน้าที่ยาม เฝ้าต้นทางการลักลอบตัดไม้พยุง และได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว รวมถึง แจ้งกับทางภาครัฐให้เข้ามาตรวจสอบสอบกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากการที่ปรากฏข้อมูลว่ามีประชาชนร้องเรียนถึงพฤติกรรมนั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ไม่หวังดี เช่นเดียวกับที่ก่อนหน้านี้มีกรณีที่ตนถูกชาวบ้านกว่า 200 คน จากชาวบ้านทั้งหมด 400 คน ร้องเรียนถอดถอนให้ออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน แต่ตนไม่ยอม สาเหตุมาจากต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และ ข้อเท็จจริง ซึ่งหากยอมลาออก ก็จะถือว่าเป็นการยอมรับ ส่วนทรัพย์สินที่มีนั้นมาจาการขายที่ของครอบครัวซึ่งพร้อมที่จะให้ทางการตรวจสอบ

              ขณะที่กำลังอีกชุดได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายประจวบ พร้อมสันเที๊ยะ ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่ ภายในไร่มันสำปะหลัง ใกล้กับวัดป่าสังฆทาน ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ทั้งนี้การเข้าไปตรวจค้นเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิด อยู่กลางไร่มันสำปะหลัง มีทางเข้าออกทางเดียว เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้รถกระบะเป็นพาหนะในการลำเลียงกำลัง จากการตรวจสอบไม่พบนายประจวบอยู่ที่บ้านดังกล่าว พบเพียงพ่อของนายประจวบ เบื้องต้นให้การว่านายประจวบไม่ได้เดินทางมาที่บ้านดังกล่าวเป็นเวลานานแล้ว

              ภายหลังการตรวจค้น พ.ต.อ.นิรันด์ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการยุทธการ “ครบุรีโมเดล” ในครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกก.3บก.ป. และคอมมานโดกองปราบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้มอบนโยบายให้ทุกกองบังคับการในกองปราบปรามเข้าลงพื้นที่กวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รับผิดชอบ โดยในพื้นที่กองกำกับการ 3 ได้ลงพื้นที่สืบสวนนานกว่า 3 เดือน หลังมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ในต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา (นางพิมลพรรณ พร้อมสันเที๊ยะ) ถูกร้องเรียนถอดถอนออกจากตำแหน่ง

              จากการลงพื้นที่พบว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติด รณรงค์แก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านได้ อีกทั้งพบว่าเครือญาติคนในครอบครัวมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด มีประวัติการถูกจับกุมในข้อหาครอบครองและเสพยาเสพติด และเคยก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์มาก่อน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกรงกลัว จึงประสานให้ชุดปฏิบัติการพิเศษสนับสนุนการปฏิบัติงานแต่จากการตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบกลุ่มเป้าหมายที่ทางฝ่ายสืบสวนต้องการตัว แต่สามารถจับกุมตัวนายอภิวัฒน์ พงษ์รุ่งเรืองน์กิจ หรือเหน่ง พร้อมอาวุธปืนลูกซอง และอาวุธปืนลูกโม่ รวมทั้งซากสัตว์ประเภทเขาควาย โดยจับกุมได้ขณะตรวจค้นภายในบ้านเลขที่90 ม. 9 ต.หนองหัวแรด อ.หนองบุญมาก จ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังคุมตัวผู้เสพยาเสพติดที่พบเป็นคนในเครือข่าย และสมุดบัญชีจำนวนหนึ่ง โดยต่อจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลตรวจสอบบัญชีทั้งหมดและความเคลื่อนไหวผู้ร่วมขบวนการต่อไป

              สอดคล้องกับด้านพ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่เปิดเผยว่า สำหรับนายประจวบ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของขบวนการนี้ โดยทำหน้าที่เป็นคนสั่งการ ในเครือข่ายยาเสพติดและไม้พยุง ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนพบว่าใช้บ้านดังกล่าวเป็นฐานสั่งการและจุดพักยาเสพติดที่รับช่วงมาจากเอเย่นต์ในประเทศเพื่อนบ้านอีกทอดหนึ่ง ก่อนที่จะลำเลียงยาเสพติดแฝงมาในรถขนไม้พยุงก่อนนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัว อย่างไรก็ดีหลังจากนื้ทางกองปราบปรามจะเร่งดำเนินการตามนโยบายของผบช.ก.ในการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งที่อ.ครบุรีจะเป็นโมเดลแห่งแรก และจะขยายผลไปปฏิบัติการตามพื้นที่อื่นๆต่อไป