แชร์ลูกโซ่ทำสูญ 300 ล้าน

          25 ส.ค.59 - พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ รับเรื่องราวร้องทุกข์จากตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือแชร์ forex จาก trillion venture ประมาณ 30 คน นำโดยนายสามารถ เจนช้ยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท
 
          นายสามารถ กล่าวว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเปิดบริษัทโดยตั้งสำนักงานอยู่พื้นที่ย่านเศรษฐกิจย่านอโศก และชักชวนผู้สนใจให้ร่วมลงทุน และมีการเสนอเงื่อนไขการลงทุนทึ่น่าสนใจเป็นแพคเกจ เช่น แม่ข่าย 1 คน หากชักชวนผู้เข้าร่วมได้อีก 3 คนจะได้ค่าตอบแทน 140 เปอร์เซ็นต์ หรือหากนำเงินมาลงทุนซื้อเพจเกจในระดับต่างๆซึ่งเป็นแผนการตลาดก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นขั้นบันใด เช่น แพคเกจซิลเวอร์ (silver )ลงทุน 100 เหรียญได้รับค่าตอยแทน 3 เปอร์เซ็นต์ เพจเกจโกลด์ ( gold ) ลงทุน1,000 เหรียญ ได้ผลตอบแทน 4 เปอร์เซ็นต์ และเพจเกจไดมอน( diamond) ลงทุน 10,000 เหรียญ ไ้ด้ผลตอบแทน 5 เปอร์เซ็นต์
 
          นายสามารถ กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติการณ์ของบริษัทดังกล่าวจะมีผู้ที่เป็นหัวหน้าทีมทำหน้าที่ชักชวนสมาชิกและคนที่รู้จัก โดยระบุว่า การลงทุนไม่มีความเสี่ยงเพราะมีสถาบันการเงินค้ำประกันความเสียหายให้ นอกจากนี้ยังมีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอเมริกา มีการนำหัวหน้าทีมและตัวแทนไปดูสำนักงานที่มาเลย์เซียและสิงคโปร์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และมีการจ่ายผลกำไรให้จริงในระยะหนึ่ง ต่อมาเมื่อมีผู้เข้าร่วมลงทุนจำนวนมากก็เริ่มมีปัญหาการจ่ายผลตอบแทน
 
          “พอสมาชิกผู้ร่วมทุนทวงถาม เจ้าหน้าที่ก็จะอ้างว่า บริษัทพร้อมจะทยอยจ่ายคืนแต่อาจล่าช้า เนื่องจากมีปัญหาโบรกเกอร์เทรดเงินแล้วขาดทุน ทำให้ประสบปัญหาด้านการเงิน จนปลายปี 2558 ก็ปิดสำนักงานทั้งในและต่างประเทศ ไม่สามารถติดต่อใครได้อีก จึงอยากขอให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบและรับไว้เป็นคดีพิเศษ”ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ฯ กล่าว
  
          ด้านพ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า เอกสารที่ตัวแทนผู้เสียหายนำมามอบให้ดีเอสไอตรวจสอบมีเป็นจำนวนมาก และมีหลายประเด็นที่ต้องใช้เวลาตรวจสอบรายละเอียดว่า เป็นมูลฐานความผิดที่เข้าข่ายพ.ร.บ.คดีพิเศษหรือไม่ หากไม่เข้าข่ายเกี่ยวข้องก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรสจดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าระยะหลังมีคดีที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก จึงอยากเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการร่วมลงทุนใดๆก็ตาม โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดียชักชวน