ข่าว

รถพ่วง18ล้อเสยท้าย18ล้อขนเกลือไฟลุกคลอกคนขับดับคาซาก

รถพ่วง18ล้อเสยท้าย18ล้อขนเกลือไฟลุกคลอกคนขับดับคาซาก

16 ส.ค. 2559

รถพ่วง 18 ล้อ ชนท้าย 18 ล้อบรรทุกเกลือ จนเกิดไฟลุกไหม้ คนขับดับคารถ จนท.ระดมฉีดน้ำนาน 20 นาทีเพลิงจึงสงบ

 

         เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 16 สิงหาคม 2559 พ.ต.ท.วินัย โห้เหรียญ สว.(สอบสวน) สภ.หนอปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ และมีผู้ติดอยู่ภายใน เหตุเกิดบนถนนหลวงหมายเลข 36 ฝั่งขาเข้า จ.ระยอง ม.6 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลหนองปรือ และเทศบาลโป่ง รีบเดินทางไปตรวจสอบ

         ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ ของบริษัทเอสซีจี หมายเลขทะเบียนสวนหัว 71-8870 ชลบุรี หมายเลขส่วนหาง 71-3738 ชลบุรี พุ่งชนเข้าที่ด้านท้ายรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเกลือ หมายเลขส่วนหัว 85-41180 ชลบุรี หมายเลขส่วนหาง 85-6400 ชลบุรี ได้รับความเสียหายยับเยิน จอดขวางถนนทั้ง 3 เลน จนรถคันอื่นๆ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้รถติดยาวกว่า 3 กิโลเมตร และรถเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้รถน้ำ 3 คัน ระดมฉีดน้ำระงับเปลวเพลิง ใช้เวลากว่า 20 นาที เพลิงจึงดับลง ตรวจสอบภายในรถพ่วง 18 ล้อ ของบริษัทเอสซีจี พบศพคนขับติดอยู่ภายในซากรถ สภาพถูกไฟคลอกจนไหม้ดำเป็นตอตะโกอยู่ที่เบาะคนขับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดร่างผู้ตายออกจากตัวรถ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง

         จากการสอบถามนายบุญส่ง เบี้ยกระโทก อายุ 41 ปี คนขับรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเกลือ ทราบว่า ได้ขับรถบรรทุกเกลือน้ำหนักประมาณ 50 ตัน มาจาก อ.ศรีราชา มุ่งหน้าเข้าเขตเมืองระยอง กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงขึ้นเนินและมืดมาก ก็รู้สึกว่ามีรถพุ่งชนเข้าทางด้านหลังอย่างรุนแรงจนรถไม่สามารถวิ่งต่อได้ จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง ตนจึงรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกจากตัวรถ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบมาช่วยเหลือ

 

รถพ่วง18ล้อเสยท้าย18ล้อขนเกลือไฟลุกคลอกคนขับดับคาซาก

         เบื้องต้น พ.ต.ท.วินัย คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากคนขับเกิดความเพลียจากการขับรถ กระทั่งเกิดหลับในจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อให้ญาติรอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป