ข่าว

จับมือฆ่าปาดคอ‘ครูสาว’ดับสยองคาห้องเช่า 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับมือฆ่าปาดคอ "ครูสาว" ดับสยองคาห้องเช่า  นำตัวทำแผน พบเคยก่อเกตุข่มขืนเมียเพื่อนเมื่อปี56 เพิ่งพ้นโทษอออกมาได้ 10 เดือน

          วันที่ 3 กรกฎาคม 2559 จากการณี น.ส.จุฬารัตน์  โทวรรณา อายุ 26  ปี ครูสอนวิทยาศาสตร์และคณิต โรงเรียนแสงวิทยา อ.แก่งคอย จ.สระบุรี  ถูกคนร้ายฆ่าปาดคอ สภาพศพนอนหงายบนที่นอนเป็นผ้านวมปูนอน มีบาดแผลที่ลำคอถูกมีดปลายแหลมปาดเป็นแผลฉกรรจ์ ซึ่งมีดยังคาอยู่ที่ลำคอซึ่งถูกปาดหวิดขาด สวมเสื้อยืดสีชมพูลายเทา ถูกถลกขึ้นมาเหนือราวนม มีเลือดกระจายเต็มที่นอน เนื่องจากผู้ตายดิ้นต่อสู้กับคนร้าย เหตุเกิดที่ห้องเช่าเลขที่ เลขที่ 17/5 ถนนสุดบรรทัด ซอย 8 เขตเทศบาลเมืองแก่งคอยนั้น

จับมือฆ่าปาดคอ‘ครูสาว’ดับสยองคาห้องเช่า 

          ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้ว คือนายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 21 ปี  ซึ่งอยู่ห้องเช่าสถานที่เดียวกับผู้ตาย โดยอยู่ตรงข้ามเยื้องๆ กับห้องครูสาว แต่หลังเกิดเหตุหายตัวไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยพฤติกรรมจึงควบคุมตัวไว้ได้ จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าครูสาวจริง ขณะเดียวกันเมื่อประชาชนทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่างพากันมามุงดูคนร้ายจำนวนมาก  แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้คุมตัวมาทำแผนแต่อย่างใด ส่วนคนร้ายประวัติเคยก่อเกตุข่มขืนเมียเพื่อนเมื่อปี2556 เพิ่งพ้นโทษอออกมาได้ 10 เดือน

จับมือฆ่าปาดคอ‘ครูสาว’ดับสยองคาห้องเช่า 

         นายสนิท โทวรรณา อายุ 59 ปี บิดาของครูสาวที่ถูกฆ่าปาดคอพร้อมญาติๆ รุดมาที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี จากนั้นให้สัมภาษณ์เหตุร้ายที่เกิดกับลูกสาว เสียใจมากทำอะไรก็ทำไป ทำไมต้องฆ่ากัน รุนแรงเกินไป ทางครอบครัวตนมีลูก 3 คน คนโตพี่ชายเป็นครูอยู่ที่บ้าน ลูกสาวคนรองอีกคนก็เป็นครูอยู่ที่ กทม. ผู้ตายเป็นลูกคนเล็ก วันนี้ภรรยาไม่มาด้วยเพราะยังทำใจไม่ได้

จับมือฆ่าปาดคอ‘ครูสาว’ดับสยองคาห้องเช่า 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านส่วนหนึ่งขณะรอที่เกิดเหตุ  เหตุฆ่าปาดคอครูสาวรอไม่ไหวจึงพร้อมใจกันเดินทางมาที่หน้า สภ.แก่งคอย พร้อมตะโกนด่าคนร้ายและมีป้ายให้ประหารชีวิต ทางตำรวจจึงขอร้องไม่ให้มาชุมนุมกันที่ สภ. ชาวบ้านจึงกลับไปปักหลักต่อที่บ้านที่เกิดเหตุ

จับมือฆ่าปาดคอ‘ครูสาว’ดับสยองคาห้องเช่า 

จับมือฆ่าปาดคอ‘ครูสาว’ดับสยองคาห้องเช่า 

พ่อเชิญดวงวิญญาณลูกครูสาวณจุดเกิดเหตุ

          เมื่อเวลา14.30น. ที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ ถนนสุดบรรทัด ซอย8เขตเทศบาลเมืองแก่งคอย จ.สระบุรี มีประชาชนจำนวนมากแออัดมาดูที่เกิดเหตุ นายสนิท โทวรรณา คุณพ่อของน.ส.จุฬารัตน์ ครูสาวผู้เสียชีวิต พร้อมพี่ชายพี่สาวของผู้ตาย ร.ต.ต.ธเนตร แฟนผู้ตาย และญาติๆ มาร่วมเพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของน้องจุฬารัตน์ โดย ทำขันข์5ใส่จาน มีดอกไม้ ธูป เทียน เมื่อรถกู้ภัยป่อเต็กตึ๊งสระบุรี ถอยหลังรถเข้ามาจาดหน้าห้องที่เกิดเหตุ กระบะหลังมีโลงศพไม้สีขาวลายไทย มีผ้าใบคลุมปิดท้าย ในโลงศพมีร่างของน้องจุฬารัตน์

          นายสนิท นำขันข์5มาวางที่โต๊ะหน้าห้องที่เกิดเหตุ อธิษฐาน เชิญดวงวิญญาณน.ส.จุฬารัตน์ลูกสาวคนเล็ก กลับบ้าน เมื่อวางขันข์5ลง คุณพ่อก็ เดินไปเคาะที่ประตูบ้าน เรียกชื่อลูกสาว พ่อมารับกลับบ้านเราแล้ว ตามมากับพ่อ จากนั้นคุณพ่อสนิทก็เดินนำจากหน้าห้องที่เกิดเหตุไปที่ท้ายรถโลงศพ และจุดธูป1ดอก บอกกล่าวดวงวิญญาณลูกสาว มี พี่ชาย พี่สาวอยู่เคียงข้าง โดยมีตำรวจแฟนหนุ่มและบรรดาญาติๆ ที่มาร่วมรับวิญญาณน้องจุฬารัตน์กลับบ้าน ท่ามกลางประชาชนมุงดูจำนวนมากโดย ผู้เป็นมารดาของผู้ตายมิได้เดินทางมาด้วยเพราะทำใจไม่ได้

          สำหรับศพจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่ วัด บ้านบุงคา อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด

          นางณัฐชานันท์ พงษ์สุภาพ อาชีพเป็นครูคนหนึ่ง เผย ความรู้สึก อยากให้ประหารชีวิตคนร้าย

          ส่วนคดี นั้น ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่เปิดเผยอะไร บอกเพียงว่า ต้องรอผลพิสูจน์จากวิทยาศาสตร์มาประกอบคดี เพื่อให้หลักฐานแน่นหนา รอผลจากนิติวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตามจะมีการแถลงข่าว วันพรุ่งนี้ที่4กรกฏาคม เวลา10.00น. ที่ ตำรวจภูธร ภาค1

 

แม่ญาติเตรียมรับศพรับลูกสาวคนเล็กกลับบ้าน 

          ที่บ้านเลขที่ 23 ม.3บ้านบุ่งค้า ต.พระธาตุ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด นางจันศรี โทวรรณา อายุ 57 ปี แม่และญาติ ของ น.ส. จุฬารัตน์  รอรับศพลูกสาวอยู่ที่บ้าน โดยให้พ่อและญาติส่วนหนึ่งเดินทางลงไปรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศล ซึ่งเดินทางไปถึงพื้นที่เกิดเหตุและเตรียมนำศพกลับบ้าน ซึ่งคาดว่าจะเดินทางกลับมาถึงในวันนี้ เวลา 18.00น. ซึ่งการจัดงานศพ ได้เตรียมตั้งเต็นท์และสถานที่จัดงานศพไว้ที่วัดบ้านค้า เป็นวัดประจำหมู่บ้าน โดยการตั้งศพ บำเพ็ญกุศล4วัน และจะฌาปนกิจในวันที่ 6 ก.ค. 59

          นางจันศรี กล่าวว่า สำหรับน.ส. จุฬารัตน์ เป็นลูกสาวคนสุดท้องคนโตเป็นชาย อายุ32ปี เป็นครู กศน. คนที่2เป็นหญิงเป็นข้าราชการครู อายุ29ปี และผู้ตายคนสุดท้องอายุ26ปี จบ ป.ตรี วิทยาศาสตร์ จบแล้วไปเป็นครูโรงเรียนเอกชนเข้าปีที่3แล้วได้เงินเดือน15,000บาท ได้ส่งมาให้ทางบ้าน และส่งตัวเองเรียนต่อด้วย คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุร้ายเช่นนี้ ลูกคนสุดท้องที่เป็นคนเรียบร้อย นิสัยดี และคิดดีกับทุกคน อยากฝากไปยังผู้รับผิดชอบการร่างกฎหมาย ให้ตามคนร้ายมารับโทษ กำหนดกฎหมายลงโทษให้ตายตกตามกันไป เพื่อที่จะไม่ให้ติดคุกพ้นโทษออกมา แล้วก็มาก่อเหตุอีก และจากการทราบว่ามีการจับคนร้ายได้ ที่เมื่อพ้นโทษแล้วยังมาก่อเหตุอีก

......................

(หมายเหตุ : ขอบคุณภายจากเฟซบุ๊ก m.news-Lifestyle.com)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ