ข่าว

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘พล.ต.อ.พงศพัศ’ พร้อมด้วยตำรวจ ปส. ร่วมกันแถลงข่าวจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ มูลค่า 800 ล้านบาท

 

          ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 2 กรกฏาคม 2559 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ไชยยา รุจจนเวท ผบก.ปส.2 พล.ต.ต พรชัย เจริญวงค์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ ขันธวิจารณ์ ผบก.ขส.บช.ปส. พล.ต.สมพงษ์ แจ้งจำรัส ผบ.กกล.ผาเมือง พ.ต.อ.วรวิทย์ ไวถนอมสัตว์ รอง ผบก.ปส.1 (หนง.ผบช.ปส.) และพ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะ รอง ผบก.ปส.2 (โฆษก บช.ปส.) ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่ จำนวน 4 คดี รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 14 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,723 มัด ประมาณ 3,447,600 เม็ด ยาไอซ์ 28 ถุงครึ่ง รวมน้ำหนัก 28.450 กิโลกรัม และอื่นๆอีกหลายรายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 789,270,000 ล้านบาท

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          โดยคดีแรกนายบัญชา หรือเอก พ่วงฉิม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 272 ม.13 ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 494 มัด ประมาณ 995,800 เม็ด รถยนต์ จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในปั้มน้ำมันปตท. เลขที่ 10374 (ปตท.ถนนข้าวหลาม บายพาส ชลบุรี) ตั้งอยู่บริเวณถนนข้าวหลาม ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่บก.ปส.3 ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายบัญชา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับทั้งคดียาเสพติดและอื่นๆอีกหลายคดี ยังคงมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงและจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งเป็นรายใหญ่ในเขตพื้นที่จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนกระทั่งทราบว่ากำลังขนย้ายยาเสพติดมาโดยซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาได้แวะเข้ามาพักผ่อนภายในปั้มน้ำมันปตท. สาขาถนนข้าวหลาม จ.ชลบุรี จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นกระทั่งพบของกลางดังกล่าว

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          คดีที่สองผู้ต้องหาคือนายเสรี หรือป๋อง วัฒนปกรณ์กิจ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/589/9 ม.5 ต.บางคูรัด อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 965 มัด ประมาณ 1,930,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 26 ถุงครึ่ง น้ำหนักประมาณ 26.450 กิโลกรัม รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ และ​โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในบ้านเลขที่ 50/31-32 หมู่ 7 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจาก

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายเสรี พร้อมพวกมีพฤติการณ์ลักลอบค้ายาเสพติดลักษณะร่วมกันเป็นเครือข่ายรายใหญ่ในเขตพื้นที่จ.นนทบุรี โดยจะลำเลียงยาเสพติดมาซุกซ่อนทิ้งไว้ภายในบ้านพักซึ่งเปิดอำพรางเป็นสำนักทรงเพื่อให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเกิดความเชื่อถือ จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมกระทั่งพบผู้ต้องหาพร้อมพวกประมาณ 3-4 ราย กำลังขนย้ายยาเสพติดเข้ามาเก็บไว้ภายในบ้านพักจุดเกิดเหตุจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นก่อนสามารถตรวจยึดของกลางพร้อมจับกุมนายเสรีได้ดังกล่าว ส่วนกลุ่มเพื่อนที่เหลือได้ใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางก่อนสามารถหลบหนีไปได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          คดีที่สามผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วยนายสุชาติ กล้ากสิกิจ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 363/9 หมู่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองจ.นครสวรรค์ นายอับดุลอาชิ หวันโส๊ะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 4 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา นายอัดนันต์ ปิรู อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 4 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา นายฮำดี บาโงสะตา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 5 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.สงขลา นายนุตฟี มะแซจะแหน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 3 ต.บาโงยซิเน อ.ยะหา จ.ยะลา และนายมะซัมรี กาเสน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 ม.6 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 160 มัดประมาณ 321,800 เม็ด ยาไอซ์ ประมาณ 2 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บม 8105 กำแพงเพชร และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่บก.ปส.1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มขบวนการลักลอบขนย้ายยาเสพติดจากทางภาคเหนือ โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บม 8105 กำแพงเพชร เป็นยานพาหนะซึ่งดัดแปลงสภาพยกฝาครอบกระบะไลน์เนอร์ออกก่อนเจาะรูทำฝาเปิด-ปิดเพื่อซุกซ่อนยาเสพติดในช่วงท้ายกระบะ เพื่อลำเลียงไปส่งมอบให้กับผู้ว่าจ้างในอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากนั้นทางผู้ว่าจ้างจะเดินทางมารอรับเพื่อไปส่งมอบให้กับลูกค้าอีกทอดภายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเฝ้าติดตามพฤติการณ์พร้อมทั้งใช้เครื่องมือพิเศษในการสืบสวนหาข้อมูลของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยขับเข้ามาภายในด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง โดยมีนายสุชาติ เป็นผู้ขับซึ่งมีท่าทางพบพิรุธจึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นกระทั่งพบของกลางซุกซ่อนอยู่ในท้ายกระบะคันดังกล่าว ก่อนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือซึ่งเป็นพี่-น้องกันได้ที่จ.นนทบุรี

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          และคดีสุดท้ายผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วยนายเสรี หรือเส อิสลาม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.7 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ นายวัชรพล หรืออี จงรักษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 ม.1 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ นายเจนวิทย์ หรือเบ้ เพชรรัตน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 561/1 ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง นายสมคิด หรือเขียว รักเล่ง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.3 ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง นายรุตชิโรจน์ เหล็มปาน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.5 ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง และนายกิตติระ วรรณเจริญ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276 ม.14 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100 มัด รวมประมาณ 2 แสนเม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน กฉ 7069 กระบี่ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บต 9744 พัทลุง รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า หมายเลขทะเบียน กฉ 9696 กระบี่ อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อเทารัส จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 14 นัด และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณลานจอดรถภายในโรงแรมร้อยทอง ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ เผยต่อว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับอีกว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ทราบชื่อต่อมาคือนายเจนวิทย์ จะนัดส่งมอบของกลางกันที่บริเวณโรงแรมร้อยทอง ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จึงนำกำลังเฝ้าติมตามสถานการณ์จนกระทั่งพบนายเสรี กำลังยกเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ จำนวน 2 ใบ ขึ้นบนรถยนต์กระบะโดยมีนายวัชพล นั่งอยู่ด้านข้างคนขับโดยพบท่าทางมีพิรุธจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นกระทั่งพบของกลางทั้งหมดพร้อมนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมก่อนทราบข้อมูลว่า นางเจ๊ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้เดินทางมารับยาเสพติดภายในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางจากนั้นให้นำไปส่งมอบให้นายเจนวิทย์ และนายสมคิด ที่บริเวณริมถนนสายทางหลวงชนบทหมายเลข 1017 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน ต.พัทลุง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปขยายผลจับกุมได้ในเวลาต่อมา จากนั้นนายเจนวิทย์ ให้การซัดทอดว่า ได้รับคำสั่งจากนางกิ๊ก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้มารับยาเสพติดเพื่อไปส่งมอบให้กับนายรุตชิโรจน์ และนายกิตติระ ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปขยายผลจับกุมได้อีกครั้ง

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ถือว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีการลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้านก่อนนำเข้ามาพักในเขตพื้นที่รอยต่อของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาค 1 ก่อนลำเลียงไปส่งมอบให้กับลูกค้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ซึ่งยาเสพติดในล็อตนี้จากการตรวจสอบพบว่าเป็นยาเสพติดที่เพิ่งผลิตมาใหม่และมีตัวยาที่แรงหากมีผู้ใดลองเสพเพียงแค่ 1-2 เม็ด ก็สามารถทำให้ติดได้ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำผู้เสพในชุมชนต่างๆไปบำบัดเพื่อให้เลิกขาดหากไม่มีผู้เสพก็เป็นการตัดเส้นทางของผู้ผลิต ทั้งนี้ต้องทลายเครือข่ายที่มีความเชื่อมโยงกันทั้งหมดเพื่อเป็นการตัดตอนโดยพบว่าเครือข่ายที่เป็นขบวนการใหญ่มีเหลืออีก 28 เครือข่ายเพียงเท่านั้น

‘พงศพัศ’แถลงจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ (ชมคลิป)

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ส่วนนายรุตชิโรจน์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมทั้งขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ