ข่าว

หมายจับเจ้าของ‘นาตารี’แจ้ง14ข้อหาหนัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับเจ้าของนาตารี-ผู้จัดการร้าน ตร.เร่งติดตามนำตัวดำเนินคดี ย้ำ ขยายผลฟันผู้เกี่ยวข้อง - รับส่วย พร้อมประสาน ปปง.สอบที่มาทรัพย์สิน


                    14 มิ.ย. 59  เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)  พ.ต.อ.ชยุต มารยาตร์ รอง ผบก.น.1 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีสถานบริการอาบอบนวดนาตารี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำกำลังเข้าตรวจค้นการค้าประเวณี ภายใต้ “ปฏิบัติการสังขร” ในสถานบริการ นาตารี อาบอบนวด ย่านรัชดาภิเษก ท้องที่ สน.ห้วยขวาง หลังได้รับการร้องเรียนจากองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศด้านต่อต้านการค้ามนุษย์ “NVADER” ได้แจ้งเบาะแสและร้องเรียนว่า มีการค้ามนุษย์ภายในสถานบริการแห่งนี้ พบการกระทำความผิดหญิงค้าประเวณี และอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนมาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น

                    ล่าสุด ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับนายประเสริฐ หรือ โกลัก สุขขี อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1151/2559 ลงวันที่ 13 มิ.ย. และนายสมหมาย หรือ ก้อง พัดสิงห์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1152/2559 ลงวันที่ 13 มิ.ย. ร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยการค้าประเวณี ร่วมกันเป็นธุระจัดหาชักพาบุคคลเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และร่วมกันเป็นผู้ดูแลสถานค้าประเวณี ให้สถานที่พักพิงต่างด้าว ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่รับอนุญาต ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนทราบว่านายประเสริฐ เป็นเจ้าของสถานบริการนาตารี โดยใช้ผู้อื่นเป็นนอมินีแทน ส่วนนายสมหมาย เป็นผู้จัดการร้านและผู้ถือใบอนุญาตสถานบริการ โดยขณะเข้าทำการจับกุมสามารถหลบหนีไปได้ ขณะนี้ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนนครบาลไปทำการสืบสวนจับกุม คาดว่าจะได้ตัว มาดำเนินคดีในเร็วๆ นี้

                    พ.ต.อ.ชยุต กล่าวอีกว่า สำหรับใครที่ร่วมกระทำความผิด มีส่วนได้เสียไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือเจ้าหน้าที่รัฐ หากมีพยานหลักฐานไปถึง ก็ต้องดำเนินคดี สำหรับรายชื่อที่ปรากฏในบัญชีส่วย รวมถึงสติ๊กเกอร์ที่มีการอ้างว่าเป็นการจ่ายส่วยให้ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนในทางลับ หลังจากนี้จะประสาน ปปง.ว่าทรัพย์สินที่ได้มาเกิดจากการกระทำผิดหรือไม่

                    ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายประเสริฐ และนายสมหมาย ถูกแจ้งข้อหาทั้งสิ้น 14 ข้อหา คือ ร่วมกันเป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลและเด็ก (บุคคลมีอายุต่ำกว่า 18 ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วยวิธีการฉ้อฉล หลอกลวง หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ

                    ร่วมกันเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม , ร่วมกันเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม , ร่วมกันเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการ การค้าประเวณีหรือสถานค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี , ร่วมกันเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการ การค้าประเวณีหรือสถานค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคล และเด็กซึ่งมีอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย , ร่วมกันเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่ออนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม , ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง และได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี อีกด้วย แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม , ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม , ร่วมกันเป็นผู้รับคนต่างด้าวเข้าทำงาน โดยคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานกับตน ทำงานนอกเหนือจากประเภท และลักษณะงานที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ณ ท้องที่หรือสถานที่ที่ระบุไว้ในอนุญาต , ร่วมกันตั้งสถานบริการ (สถานที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการโดยหวังประโยชน์ทางการค้า) ประเภทสถานอาบน้ำ นวด หรืออบตัว ซึ่งมีผู้บริการให้แก่ลูกค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ , ร่วมกันเป็นนายจ้างที่มีการจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเป็นลูกจ้าง โดยไม่แจ้งการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน , ร่วมกันเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ , ร่วมกันเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก , ร่วมกันดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณีหรือสมาคมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี รับเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น โดยผู้ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ