ตำรวจไซเบอร์บุกทลายเว็บพนันออนไลน์

            เมื่อวันที่ 30 มีนาคม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทำการปฏิบัติการบุกกวาดล้างแก๊งเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงพร้อมกันรวดเดียว 18 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดประกอบด้วย นนทบุรี สมุทรสาคร ตราด และสระแก้ว ซึ่งถ่ายทอดสดและสั่งการการจับกุมทุกจุดจากห้องวอร์รูม บก.ปอท. ซึ่งควบคุมการปฏิบัติการโดยพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และพล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท. ตามโครงการปฏิบัติการไพร่ฟ้าหน้าใส ภาค operation broker ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องคือ เป็นบ้านพักเจ้าของเว็บ เป็นที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ คอลเซ็นเตอร์เว็บพนัน ที่ตั้งบริษัทเว็บไซต์ จุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากไทยไปกัมพูชา ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ใช้ข้ามแดน ผู้จัดหาคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงบ้านพักเจ้าของบัญชี

            พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า สืบเนื่องจาก 2-3 ปีก่อน มีการจับพนันออนไลน์ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยผ่านกระบวนการคอลเซ็นเตอร์ และปัจจุบัน ปอท.ทราบว่า คอลเซ็นเตอร์มีการย้ายถิ่นฐานจากไทยไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ลักษณะแผนประทุษกรรมคล้ายๆ กัน โดยมีการพยายามหลบเลี่ยงหรือปกปิดใน 4 ลักษณะ คือปกปิดโดนเมนเนม สถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ บัญชีธนาคารเว็บไซต์พนัน โทรศัพท์ นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มพนันออนไลน์จะใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตของไทย และมีการลากสายสัญญาณข้ามแดน ทำให้ต้องตรวจสอบว่า มีกลุ่มบุคคลใดให้การสนับสนุนหรือไม่

            พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันปัจจุบัน คสช. กวาดล้างการพนันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่หมดไป เนื่องจากผู้คิดกระทำผิดได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบมาใช้อินเทอร์เน็ต หรือโลกออนไลน์ในการกระทำผิด รวมถึงเปิดบ่อนการพนัน และอาชญากรรมหลายรูปแบบเลือกใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการหลอกลวงประชาชน จึงต้องบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. อย่างจริงจัง พร้อมทั้งสื่อสารไปยังผู้ที่ชอบเล่นการพนันผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อจะทำให้ปัญหาลดลง

            ด้าน พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบว่ามีความน่าสงสัยเกิดขึ้นหลายจุด โดยได้ตรวจพบว่าผู้ให้บริการเว็บพนันรายใหญ่ 9 ราย ซึ่งย้ายที่ตั้งไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน มีการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการในประเทศไทย ด้วยการลากสายสัญญาณข้ามแดน ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร และยังพบว่ามีกลุ่มบุคคลให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งต้องมีการขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม จะรวบรวมเอกสารส่งให้ ป.ป.ง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป

            สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถปิดเซิร์ฟเวอร์พนันออนไลน์รายใหญ่ได้ประมาณ 6 เว็บไซต์ พร้อมกับดำเนินการตัดสายเคเบิลที่ลากข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต จนทำให้หลายเว็บพนันเข้าไม่ได้แล้ว