ข่าว

รวบ!เมีย-ลูกสะใภ้จ้างวานฆ่าผัวเอาเงินประกัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบ! เมีย-ลูกสะใภ้ ร่วมกันจ้างวานฆ่าอดีตผัวหวังเงินประกันชีวิตไปวิ่งเต้นช่วยเหลือลูกชายที่ถูกจับคดียาเสพติด อ้างผู้ตายติดยาแล้วซ้อมทุบตี ทนไม่ไหวจึงสั่งฆ่าทิ้ง

 
                    1 ก.ย.57 พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.ผบช.ภ.4 พร้อมด้วยผู้ใต้บังคับบัญชา และตำรวจชุดจับกุม แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น 3 ราย คือ นางจันทร์เพ็ญ รูปดี อายุ 41 ปี ,น.ส.ภานุมาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ทั้งสองมีศักดิ์เป็นแม่สามี-ลูกสะใภ้ และนายอุตะมะ บุพผา อายุ 37 ปี มือปืน ทั้งหมดเป็นราษฎร อ.บึงโขงหลง จ.หนองคายพร้อมกับอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ชนิดกระสุน .38
 
                    ทั้งนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. นายบุญนะ รูปดี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 ม.6 ต.บึงโขงหลง ถูกยิงเสียชีวิตที่สะพานทางเข้าสวนยาง ใกล้บ้านโนนสวนปอ ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง โดยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหายไป ลักษณะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์
 
                    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ลงมือยิงนายบุญนะ คือนายอุตะมะ บุพผา ซึ่งเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำได้ 1 เดือน หลังถูกตัดสินจำคุกคดียาเสพติด เป็นเวลา 3 ปี จึงเข้าจับกุมตัว สอบสวนให้การรับสารภาพ โดยให้การพาดพิงว่า นางจันทร์เพ็ญ อดีตภรรยาผู้ตาย และน.ส.ภานุมาศ ลูกสะใภ้ผู้ตาย เป็นผู้จ้างวานฆ่า เพราะต้องการเงินประกันชีวิตและสินสมรส เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือลูกชาย ซึ่งเป็นสามีของน.ส.ภานุมาศ ที่ถูกจับกุมคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ตกลงค่าจ้างจำนวน 1 แสนบาท จ่ายมาแล้ว 4 หมื่นบาท โดย น.ส.ภานุมาศ เป็นคนจัดหาอาวุธปืนให้
 
                    จากนั้นวางแผนให้ น.ส.ปริศนา ศรีสุพัฒน์ และน.ส.เนตรนภา ทาแสง ซึ่งเป็นหลานนายอุตะมะ มือปืนร่วมด้วย ในวันเกิดเหตุให้ทำทีว่ารถจักรยานยนต์น้ำมันหมด โบกรถนายบุญนะขอความช่วยเหลือ เมื่อหลงเชื่อจอดรถจักรยานยนต์ ก็ถูกนายอุตะมะที่ซ่อนตัวอยู่ ตรงมายิงเข้าที่ด้านหลังของศีรษะจนเสียชีวิต โดยได้ขโมยรถของคนตายไปด้วย
 
                    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับกุมตัวนางจันทร์เพ็ญ และ น.ส.ภานุมาศ ไว้ได้ และยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งปืนที่ถูกทิ้งอยู่ริมถนนหน้าวัดดานเทพมงคล บ้านโนนสวนปอ ใกล้ที่เกิดเหตุ
 
                    ระหว่างแถลงข่าว นางจันทร์เพ็ญ มีอาการเครียดถึงกับร้องไห้ และบอกว่า อดีตสามีมีพฤติกรรมเสพยาและจะทำร้ายร่างกาย เคยถูกนายบุญนะยิงมาก่อน จึงได้แยกทางโดยยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ต่อมานางจันทร์เพ็ญไปมีสามีใหม่ที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้นายบุญนะโกรธแค้นมาก ออกติดตามจะทำร้าย ขณะเดียวกันทั้งคู่มีทรัพย์สินที่เป็นสินสมรส เป็นที่ดินและสวนยางพารา 25 ไร่ ขายไปแล้ว 10 ไร่ เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือลูกชายที่ต้องคดียาเสพติด และยังมีเงินประกันชีวิตวงเงิน 1 ล้านบาท โดยมีนางจันทร์เพ็ญและลูกชายเป็นผู้รับผลประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีเงินสินไหมจาก ธ.ก.ส.อีกจำนวน 170,000 บาท จึงวางแผนฆ่าทิ้ง
 
 
 
 
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ