จับสาวลำปางหิ้วไอซ์3กก.มูลค่า10ล.

 

 

          วันที่ 2 ม.ค.57  เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่อากาศยานเชียงใหม่ นำโดยพ.ต.อ.นิธิคม ปัญจมาลา ผกก.ด่าน ตม.ทอ.และ พ.ต.ท.อุดม สุวรรณเลขา รอง ผกก.ด่าน ตม. ,ร.ต.อ.รุ่งเพ็ชร  เฟื่องมณี และ ร.ต.อ.หญิง วรรณิดา วงค์ชัย รอง สว.ด่าน ตม.พร้อมกับพวกได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว น.ส.ชุติมา บุญสำอางค์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 308/16 ถซฉัตรชัย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมยาไอซ์น้ำหนักร่วม 3 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนไว้ในกระป๋องอาหารสุนัขและอาหารแมว และห่อช็อกโกแลต โดยแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาไอซ์)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

 

          พ.ต.อ.นิธิคมน์ ปัญจมาลา ผกก.ด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้จากการสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากเขตปกครองพิเศษมาเก๊า เข้ามายังประเทศไทยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน  FD 2953 โดยจะมาถึงสนามบินนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่บริเวณขาเข้าระหว่างประเทศ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ทำการตรวจเข้มกระเป๋าเดินทางแต่ละใบ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิง จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจได้พบกระเป๋าเดินทางลายเสือ ที่ได้ทำการตรวจเอ็กซเรย์กระเป๋าพบกระป๋องอาหารสุนัขและแมวพร้อมขนมช็อกโกแลตหลายชนิดมีลักษณะวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ และเจ้าของกระเป๋าทราบชื่อว่า น.ส.ชุติมา บุญสำอาง อายุ 23 ปีเป็นชาวลำปาง

 

          ทั้งนี้ เมื่อทำการตรวจประวัติการเดินทางเข้า-ออกพบว่าเดินทางออกบ่อยครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงจึงได้ขอทำการตรวจค้นกระเป๋าพบว่ามีกระป๋องอาหารสุนัขและแมวซุกซ่อนจำนวน 8 กระป๋อง โดยแต่ละกระป๋องไม่มีร่องรอยการเปิดมาก่อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดสินใจทำการเปิดกระป๋องอาหารสุนัข 1 กระป๋องก็พบภายในมีถุงพลาสติกสีดำปิดแน่นมีเปิดออกดูพบยาไอซ์เป็นเกล็ดอยู่ภายใน จึงได้ทำการตรวจค้นถูกกระป๋องรวมทั้งกล่องช็อกโกเลตพบมียาไอซ์อยู่ภายในแทบรวมน้ำหนักร่วม 3 กิโลกรัม มูลค่า 10 ล้านบาท โดยทาง น.ส.ชุติมา ได้ให้การปฎิเสธโดยอ้างมาคนรู้จักเป็นชาวจีนฝากมาโดยที่ไม่รู้ว่าภายในกระเป๋ามียาเสพติดซุกซ่อนมาด้วย

 

          น.ส.ชุติมา ได้ร้องไห้พร้อมให้การปฎิเสธลั่นโดยบอกว่าได้ไปช่วยแม่ขายอาหารอยู่ประเทศมาเลเซีย และไปเที่ยวที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ในช่วงที่จะเดินทางกลับ ชายชาวจีนเป็นญาติทางคนรู้จักได้นำอาหารสุนัขและแมวมามอบให้ตนเพื่อให้นำไปเลี้ยงสุนัขและแมวที่บ้านตนไม่ทราบว่าข้างในจะเป็นยาเสพติดอยู่ภายในจริง

 

          อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ได้ทำการตรวจประวัติการเดินทางพบว่ามีการเดินทางเข้าออกต่างประเทศหลายครั้ง จึงจะทำการประสานทางเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดเพื่อนำตัวไปขยายผลการจับกุมต่อไป