เจาะชีวิต'เจ้าพ่อภาคตะวันออก'

             "ผมจะพยายามนำพรรคชาติไทยไปสู่ความก้าวหน้าให้เป็นที่พึ่งของประชาชนและพวกเรา แต่ก็ต้องได้รับความอนุเคราะห์จากหลายฝ่าย รวมทั้งท่านกำนัน จะเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาพรรคชาติไทยไปสูความมุ่งหวังที่เราตั้งไว้"

             นี่คือถ้อยคำของอดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทย พูดกับคณะของ สมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ที่นำ ส.ส.ชลบุรี เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดครบ 70 ปี ที่บ้านพักจรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545

             ถือเป็นการยอมรับถึงความสำคัญของกลุ่มการเมือง ตระกูลคุณปลื้ม ครั้งหนึ่งเคยทำงานการเมืองร่วมกับพรรคชาติไทย เป็นภาพสะท้อนของตระกูลการเมืองที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งในภาคตะวันออก โดยมีแกนนำสำคัญในฐานะผู้วางรากฐาน คือ "กำนันเป๊าะ"

             เส้นทางของกำนันเป๊าะ เริ่มจากคนหนุ่มในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี หาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นกระเป๋ารถเมล์ในพื้นที่ ต.แสนสุข ต่อมาได้ไปสมัครผู้ใหญ่บ้าน และกำนันตำบลแสนสุข ควบคู่กับการหันมาสู่อาชีพประมง ด้วยการที่มีพรรคพวกอยู่ที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา ธุรกิจประมงเติบโตเรื่อยมา

             ในแง่ของการยกระดับตัวเองมาเป็นผู้กว้างขวาง เริ่มเกิดขึ้นหลังจาก จุมพล สุขภารังษี หรือ เสี่ยจิว มีบทบาทในการเป็นผู้ทรงอิทธิพล และหัวคะแนนคนสำคัญใน จ.ชลบุรี ที่สนับสนุน บุญชู โรจนเสถียร ลงแข่งขันทางการเมืองกับ พล.ต.ศิริ สิริโยธิน โดยกำนันเป๊าะช่วยเหลือฝั่ง พล.ต.ศิริ แต่ตกเป็นฝ่ายแพ้ ต่อมาเมื่อ "เสี่ยจิว" ถูกยิงตาย เมื่อเดือนมิถุนายน 2524 ภาพของ "กำนันเป๊าะ" จึงโดดเด่นขึ้นมา ในฐานะผู้สนับสนุน "นิคม แสนเจริญ" น้องของ "สติล คุณปลื้ม" ให้เข้าสู่การเมืองท้องถิ่น โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นก้าวเข้าสู่ระดับประเทศโดยลงสมัคร ส.ส. ในนามของพรรคกิจสังคม

             เมื่อปี 2529 กำนันเป๊าะ เข้าสู่การเมือง ในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมตั้งบริษัท บางแสนมหานคร จำกัด บริษัทแห่งนี้มีผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นคนของตระกูลคุณปลื้ม-แสนเจริญ (นามสกุลฝ่ายภรรยาของนายสมชาย  : นางสติล) การขยายธุรกิจของกำนันเป๊าะ จึงอิงกับการพัฒนาบางแสน พื้นที่ซึ่งมีบทบาทในฐานะกำนันและนายกเทศมนตรีในขณะนั้น

             ด้วยความเป็นคนกว้างขวางใน จ.ชลบุรี ทำให้การเลือกตั้งทุกครั้ง คนของฝั่งกำนันเป๊าะ จะได้รับเลือกเข้ามา ขณะเดียวกันยังได้แตกแขนงธุรกิจเพิ่มเติมด้วยการจัดตั้ง บริษัท ชลบุรีแฮปปี้เวิร์ล จำกัด ในเดือนเมษายน 2530 และธุรกิจของกำนันเป๊าะกับครอบครัว ก็แตกออกไปมากขึ้นเป็นลำดับ ตามอิทธิพลทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น

             อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของ "นิคม" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2535 จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ขาดผู้ที่จะทำงานทางการเมืองในพื้นที่ กำนันเป๊าะจึงเริ่มเข้ามามีบทบาททางการเมืองอย่างเต็มรูปแบบ โดยส่งลูกชายคนโต "สนธยา คุณปลื้ม" ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส. ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ต่อมาส่งลูกชายคนรอง "วิทยา คุณปลื้ม" ลงเลือกตั้งก็ประสบความสำเร็จ ทำให้กำนันเป๊าะถือว่าเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของ จ.ชลบุรี และสร้าง ส.ส.ได้ในแบบยกทีม 7 คน ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ให้ความสนใจ ที่จะให้กลุ่มการเมืองคุณปลื้มย้ายไปสังกัด โดย "คุณปลื้ม" เคยสร้าง ส.ส.ให้พรรคชาติไทย และพรรคชาติพัฒนา

             ขณะเดียวกัน ผู้กว้างขวางจากภาคตะวันออก กลับประสบชะตากรรมพลิกผัน เมื่อกำนันเป๊าะได้ร่วมกับพรรคพวก ซื้อที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 1218 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 140 ไร่ เป็นจำนวนเงิน 93.5 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นที่ดินทิ้งขยะของเมืองพัทยา ทั้งที่ความเป็นจริงที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางละมุง กรมป่าไม้ ได้เคยออกเขตแนวป่าสงวน โดยซื้อมาจากบริษัท เค.ไอ.ที.ไอ. โคปอร์เรชั่น จำกัด ในราคาไร่ละ 5 หมื่นบาท แต่มาขายให้แก่เมืองพัทยาในราคาไร่ละ 668,000 บาท รวม 140 ไร่ เป็นเงินทั้งสิ้น 93.5 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินจริง ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย กระทั่งศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุก 3 ปี 4 เดือน เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2549

             จากนั้นกำนันดังจึงหลบหนีไปอยู่ที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ยังหนีคดีร่วมกันฆ่า ประยูร สิทธิโชติ อดีตกำนันตำบลเสม็ด คดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาจำคุก 25 ปี วิบากกรรมเหล่านี้ คือ การปิดฉากของกำนันเป๊าะ เหลือเพียงลูกชายทั้ง 3 คน คือ สนธยา วิทยา และอิทธิพล ที่ยังสร้างฐานทางการเมืองในพื้นที่ ผ่านบทบาทนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเมืองพัทยา ก่อตั้งกลุ่มการเมือง "พลังชล" และสามารถเอาพื้นที่ทางการเมือง จากการเลือกตั้งที่เคยตกเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ให้กลับคืนมาสู่ตระกูลคุณปลื้มได้อย่างเบ็ดเสร็จ

             "ผมขอขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานวันเกิดในปีนี้ทุกคน ที่ยังไม่ลืมกันแม้จะไม่ได้อยู่ที่บ้าน ตอนนี้สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย และขอฝากกลุ่มเรารักชลบุรี ที่มีนายสนธยา เป็นหัวหน้ากลุ่ม ในการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งต่อไปด้วย" วาทะ "กำนันเป๊าะ" พูดกับผู้สนับสนุนที่เดินทางมายังบ้านพักในเดือนตุลาคม 2553 เพื่อร่วมงานวันคล้ายวันเกิดปีที่ 72 เป็นการพูดทางโทรศัพท์ในขณะที่ตัวเองยังหลบหนีคดี

.................

(หมายเหตุ : เจาะชีวิต'เจ้าพ่อภาคตะวันออก'สูงสุดสู่สามัญ : ศูนย์ข่าวภูมิภาครายงาน)