ข่าว

บังคับ!รถขนวัตถุอันตรายติดGPS

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้รถบรรทุกวัตถุอันตราย ต้องตั้งติด GPS ทุกคัน บังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 56 เป็นต้นไป คุมพฤติกรรมคนขับ ป้องกันเหตุร้าย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 55  นายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกเตรียมออกมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในการขนส่งวัตถุอันตรายทั้งด้านตัวรถ พนักงานขับรถ และผู้ประกอบการขนส่ง โดยด้านตัวรถ กำหนดให้รถบรรทุกวัตถุอันตรายต้องติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS Tracking) เพื่อให้สามารถติดตาม ควบคุม กำกับดูแล พนักงานขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จะบังคับใช้กับรถบรรทุกวัตถุอันตราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป สำหรับรถที่จดทะเบียนก่อนวันบังคับใช้และติดตั้งเครื่อง GPS อยู่แล้วสามารถ ใช้ต่อไปได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครทุกเขตพื้นที่ , สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด เข้มงวดกวดขันในการตรวจสภาพรถบรรทุกวัตถุอันตราย โดยเฉพาะการตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบของรถที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะด้านตัวถังและอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานและต้องยึดติดกับโครงคัสซีอย่างมั่นคงถาวร เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

          นายวัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับด้านพนักงานขับรถ เตรียมจัดตั้งศูนย์ประวัติผู้ขับรถสาธารณะและรถบรรทุกวัตถุอันตราย เพื่อสนับสนุนข้อมูลประวัติผู้ขับรถและผู้ประจำรถให้แก่ผู้ประกอบการขนส่ง เพื่อเป็นข้อมูลในการคัดกรองก่อนรับเข้าทำงาน และเป็นการส่งเสริมให้ผู้ขับรถที่มีคุณภาพให้อยู่ในระบบมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเตรียมปรับปรุงหลักสูตรการอบรมการขอรับใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุของรถบรรทุกวัตถุอันตรายให้เป็นไปตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งสินค้าอันตรายทางถนนของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งยุโรปภายใต้องค์การสหประชาชาติ (ADR) และเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มอบรมตามหลักสูตรใหม่นี้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2556 เป็นต้นไป 

          "ด้านผู้ประกอบการขนส่ง กำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งต้องจัดทำรายงานการตรวจสภาพรถเบื้องต้นประจำวันก่อนการใช้งานทุกครั้ง และต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถทุกครั้งก่อนออกให้บริการ ต้องอบรมพนักงานขับรถเป็นประจำทุกปี รวมทั้งต้องจัดตั้งศูนย์ควบคุมการเดินรถด้วยระบบ GPS และต้องติดตั้งระบบ GPS ในรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกวัตถุอันตรายทุกคัน พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการขนส่งวัตถุอันตรายต้องใช้พนักงานขับรถที่มีใบอนุญาตขับรถชนิดที่ 4 เท่านั้น หากพบการฝ่าฝืนจะลงโทษขั้นสูงสุด"

          นายวัฒนาระบุอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการบูรณาการร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรุงเทพมหานคร, กรมธุรกิจพลังงาน, กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการตำรวจทางหลวง ดำเนินการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุในกรุงเทพมหานคร และในเขตท้องที่จังหวัดนครราชสีมา กรณีรถขนส่งวัตถุอันตรายเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือมีสาธารณะภัยเกิดขึ้น คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนได้ในระดับหนึ่ง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ