ปะทะเดือด!จับตาย8ศพแก๊งยาบ้าเชียงราย

                     เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 ก.ค. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับ ตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) 327 กก.ตชด.32 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ประสานกำลังกันหลายฝ่ายนับร้อยนายเข้าไปดักซุ่มอยู่บริเวณสันเขาชายแดนไทย-พม่า ด้านหมู่บ้านผาหมี หมู่ 6 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรงกันข้ามดอยสามปี จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งเป็นป่าเขาเลียบถนนด้านฝั่งไทย เนื่องจากสืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ขนยาเสพติดจำนวนมากจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านผ่านเข้าไปพักในพื้นที่

                      กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบชายฉกรรจ์กล่มใหญ่รวมประมาณ 10-12 คน เดินลัดเลาะไปตามแนวป่าสูงชัน โดยมีทั้งคนที่แบกกระเป๋าเป้และถืออาวุธปืนสงครามคุ้มกันเต็มอัตรา เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่ให้สัญญานหยุดตรวจ ปรากฎว่า กลุ่มชายดังกล่าวเห็นว่าฝ่ายตัวเองมีหลายคนและยังติดอาวุธ จึงอาศัยความสุงชันของป่าเขาหลบหนีและใช้อาวุธปืนยิงสาดใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นนานประมาณ 10-15 นาทีเสียงปืนจึงสงบลง โดยฝ่ายตรงกันข้ามถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่เสียชีวิตตามจุดต่าง ๆ ของแนวป่าหลายศพ แต่สามารถอาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้ประมาณ 3-5 คน เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังไว้โดยรอบและรอให้สว่างรวมทั้งหมอกลดลงจึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าฝ่ายตรงกันข้ามเสียชีวิตจำนวน 8 ศพ ส่วนของกลางในที่เกิดเหตุพบอาวุธอาก้าทั้งแบบธรรมดาและพับฐาน ปืนพกสั้น 9 มม.หลายรายการ นอกจากนี้พบกระเป๋าเป้ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจำนวน 9 ใบ

                    ต่อมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภาค 5 นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ปปส.ภาค 5 ได้นำกำลังเข้าไปสนับสนุนและตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบของกลางที่เป็นยาเสพติดประเภทยาบ้าอยู่ในกระเป๋าเป้เกือบทุกใบโดยมีทั้งที่บรรจุในห่อพลาสติกสีเหลืองตามปกติ และที่ซุกซ่อนอยู่ในถุงผลิตภัณฑ์ชา นอกจากนี้ในแต่ละใบยังมีถุงพลาสติกบรรจุยาเสพติดประเภทยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาชั่งน้ำหนักพบว่ายาไอซ์มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 70 กิโลกรัม ส่วนยาบ้าเบื้องต้นนับได้รวมกันประมาณ 550,000 เม็ด แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องกระจายกำลังกันไปตามแนวป่าเส้นทางหลบหนีเพื่อตรวจหากระเป๋าเป้ที่อาจจะตกอยู่เพิ่มเติมต่อไป ขณะเดียวกันก็พบรอยเลือดเป็นทางยาวจากจุดปะทะไปยังชายแดนคาดว่าเป็นของกลุ่มคนร้ายที่เหลือซึ่งหลบหนีไปนั่นเอง

                   พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้พบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดพยายามจะขนยาเสพติดเข้ามาพักตามแนวชายแดนตามจุดที่ยากต่อการเข้าไปตรวจสอบ โดยเฉพาะตามแนวสันเขาที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ เนื่องจากจุดเดิมๆ ที่เป็นชายแดนใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านเจ้าหน้าที่ได้มีการวางรั้วลวดหนามเอาไว้เป็นบริเวณยาวรวม ๆ กันนับร้อยกิโลเมตรแล้ว กระนั้นชายแดนโดยเฉพาะไทย-พม่า ยาวหลายพันกิโลเมตร จึงมีช่องหรือจุดที่ขบวนการสามารถลักลอบเข้ามาได้อยู่ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงได้ร่วมกันประสานการข่าวและทราบว่าจุดเกิดเหตุมีการลักลอบนำเข้ามาเพื่อพักเอาไว้ โดยจะนำของกลางทั้งหมดไปฝังเอาไว้ที่สวนผลไม้และสวนผักแห่งหนึ่งก่อน จากนั้นจึงค่อยลักลอบขนเข้าสู่ชั้นในของประเทศต่อไป

                  พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงต้นของการตรวจสอบคาดการณ์กันว่ากลุ่มคนร้ายเป็นพวกชาวว้าที่มักมีพฤติกรรมดังกล่าว แต่เมื่อตรวจสอบรูปพรรณสันฐานและการข่าวแล่วทราบว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธและขนยาเสพติดเผ่าอาข่า ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อขยายผลว่ากลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใด และต้นตอของแหล่งยาเสพติดดังกล่าวมาที่ไหนรวมทั้งจะนำไปส่งให้กับกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มใดต่อไป

                 ทั้งนี้ รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ระบุว่าบริเวณตรงกันข้ามจุดเกิดเหตุเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มผลิตยาเสพติดที่ดอยสามปีและถัดไปทางเขตติดต่อ อ.แม่สาย กับ อ.แม่ฟ้าหลวง เป็นกลุ่มมูเซอ โดยแต่ละกลุ่มจะมีกองกำลังติดอาวุธที่ใช้คุ้มกันกองคาราวานยาเสพติดของตน โดยก่อนขนจะบรรจุยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าในกระเป๋าเป้ใบละประมาณ 150,000 เม็ด แต่เมื่อใกล้หรือถึงจุดพักยาเสพติดกลุ่มคนขนจะหักค่าจ้างออกไปกระเป๋าละประมาณ 30,000 เม็ดจึงเหลือที่อยู่ในกระเป๋าเมื่อตรวจค้นทุกครั้งประมาณ 120,000 เม็ด

                 สำหรับขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้มีพฤติกรรมลักลอบนำยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ตรงกันข้ามถนนเลียบชายแดนข้ามฝั่งถนนมายังพื้นที่หมู่บ้าน โดยอาศัยความสูงชันของป่าเขาช่วยกันขนลำเลียงลงไปโดยใช้กองกำลังติดอาวุธคุ้มกัน แต่จะไม่เข้าไปถึงหมู่บ้านแต่จะนำยาเสพติดไปฝังรอไว้ที่สวนลิ้นจี่และลำไยก่อนถึงหมู่บ้าน ซึ่งจากจุดนี้สามารถนำยาเสพติดออกมาส่งไปตามจุดต่างๆ ผ่านบ่อขยะชุมชน ตัวหมู่บ้าน ฯลฯ เพื่อไปยังถนนพหลโยธินสายแม่สาย-เชียงราย หรือนำไปยังถนนสายรองอื่นๆ เพื่อเข้าสู่ชั้นในประเทศได้ต่อไป ทั้งนี้มูลค่าของยาเสพติดทั้งหมดคาดว่าจะถึงกว่า 100 ล้านบาทเพราะยาไอซ์มีราคาที่ชายแดนกิโลกรัมละประมาณ 1.2 ล้านบาท

 

จับกุมเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ของกลางว่า 6 แสนเม็ด

 

          พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 แถลงข่าวจับกุมเครือข่าย ยาเสพติดรายใหญ่ โดยใช้รถตู้เบนซ์ขนยาบ้าจากพื้นที่ภาคเหนือเข้าไปส่งเอเย่นต์ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และอ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้ของกลางกว่า 6 แสนเม็ด

          ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.รัชทพงศ์ เตี้ยสุด รองผกก.ตม.ชลบุรี ได้เข้าตรวจค้นรถตู้เบนซ์ รุ่นวีโต้ สีบอร์นเทา ทะเบียน นข 4243 พิษณุโลก บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ม่อนดารา เลขที่ 275 ม.10 ต.แม่จั๊ว อ.เด่นชัย จ.แพร่ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ นายเฉลย อินเมฆ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 6/5 หมู่ 1 ต.หนองหัว อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และนางสาวขวัญลดา นิลสนธิ อายุ 34 ปี  บ้านเลขที่ 53/2 หมู่ 5 ต.ยางขาว อ.พยุหศีรี จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 6 แสนเม็ด ซุกซ่อนบริเวณช่องเก็บของกลางรถ และประตูด้านฝั่งคนขับ

          โดยจากการสืบสวนพบว่า จะมีการขนลำเลียงยาบ้าจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้าไปส่งให้พ่อค้าในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง จึงได้ประสาน บช.ปส.เพื่อ ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถที่ใช้เดินทางในพื้นที่ภาค 5 จากการตรวจสอบพบว่า เป็นทะเบียนรถใช้ในการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ โดยช่วงจับกุมได้มีรถประกบจำนวน 3 คัน เพื่อหลบเลี่ยงด่านตำรวจ ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้ขับรถหลบเข้าปั๊มน้ำมันก่อนเข้าจุดตรวจด่านสกัดกั้นหลัก ในพื้นที่ ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ประมาณ 2 กิโลเมตร เนื่องจากกลุ่มคนขับที่ขับรถนำหน้าได้แจ้งให้หลบด่าน ทำให้เจ้าหน้าที่ชุด ตม.ชลบุรี เข้าตรวจค้นรถตู้เป้าหมายได้พร้อมของกลาง

          จากการสอบสวนนางสาวขวัญลดา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างจากนายเฉลย คนขับรถได้ติดต่อว่าจ้างให้นั่งรถตู้คันดังกล่าวจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านตรวจค้นในพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับค่าจ้างวันละ 5,000 บาท ซึ่งยาบ้าดังกล่าวจะนำไปจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง

          พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยว่า ทางกองตรวจคนเข้าเมือง 3 (ตม.3)  ได้ติดตามการค้ายาเสพติดมาจากที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งระบาด ทราบจากการข่าวว่า มีการลำเลียงยาเสพติด ขณะนี้ก็พบว่าระบายมาเรื่อย ๆ ตรงกับข้อมูลของกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เมื่อประสานข้อมูลกันก็ตรงกันตามที่ได้รับรายงานจึงสามารถจับกุมได้ โดยการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นรายใหญ่เป็นเครือข่ายของประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

.........................................

(หมายเหตุ : ภาพจากแฟ้มข่าว)