ข่าว

คุกตลอดชีวิต'เอนก สิงขุนทด'มือบึ้มภท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต 'เอนก สิงขุนทด'มือบึ้ม ซุกระเบิดถังแก๊สบึ้มภูมิใจไทยปี 53 รับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 35 ปี ปรับ 50 บาท

            เมื่อเวลา 10.45 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2930/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเอนก สิงขุนทด จำเลยที่ 1 ซึ่งตาบอดเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดหน้าพรรคภูมิใจไทย จำเลยที่ 1 นายเดชพล พุทธจง จำเลยที่ 2 นายกำพล คำคง จำเลยที่ 3 นายกอบชัย หรืออ้าย บุญปลอด จำเลยที่ 4 นางวริศรียา หรืออ้อ บุญสม จำเลยที่ 5 และนายสุริยาหรืออ้วน ภูมิวงษ์ จำเลยที่ 6 ในความผิดฐานร่วมกันทำวัตถุระเบิด มีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธ(วัตถุระเบิด)ไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร และกระทำให้เกิดระเบิดฯ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490   มาตรา  4, 38, 74 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  221, 222, 218, 371

            ทั้งนี้ ตามฟ้องโจทก์ ระบุความผิดสรุปว่า ระหว่างต้นเดือน มิ.ย. - 22  มิ.ย. 53 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งหกกับพวกร่วมกันผลิตหรือทำวัตถุระเบิด และร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ทำขึ้น โดยจำเลยทั้งหกกับพวกไม่ได้รับใบอนุญาต แล้วจำเลยทั้งหกกับพวกร่วมกันทำให้เกิดการระเบิดขึ้น โดยนายนายอเนก สิงขุนทด จำเลยที่ 1 เป็นผู้เข็นรถเข็นผลไม้ ที่ซุกซ่อนระเบิดไว้ เข็นผ่านไปทางด้านหลังของอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ตั้งอยู่ใกล้ซอยพหลโยธิน 43 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ก่อนเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ผนังด้านหลังอาคารพรรคภูมิใจไทย แตกเสียหาย ขณะเดียวกันแรงระเบิดยังทำให้นายอเนก ตาบอกทั้งสองข้าง นอกจากนี้เพิงโรงเรือนร้านค้าขายอาหารตามสั่งของนายแถม ตรุพิมาย ถูกแรงระเบิดเสียหายพังทั้งหลัง ค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000  บาท รถยนต์ ทะเบียน ธต 7963  กทม. ของ ว่าที่ ร.ต.ภูมิรัตน์ นาคอุดม ได้รับความเสียหาย เป็นเงิน  40,000  บาท 

            อีกทั้ง ชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยอื่นให้การปฏิเสธ จึงได้แยกสำนวนพิจารณา

             ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยที่ 1 รับสารภาพในชั้นพิจารณาและชั้นสอบสวนว่า จำเลยที่ 1 เป็นบุคคลคนเดียวกับที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นหลักฐานของพยานโจทก์ ขณะที่อัยการโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางเขน 2 นาย เบิกความว่า หลังเหตุการณ์ระเบิดได้เข้าตรวจสอบสถานที่พบจำเลยที่ 1 นอนได้รับบาดเจ็บอยู่ โดยมีเศษเงาะและถังแก๊สสีส้มตกกระจายอยู่ ซึ่งจำเลยที่ 1 รับสารภาพว่า รับจ้างจากจำเลย 2-3 ให้นำรถเข็นผลไม้ ซึ่งมีถังแก๊สสีส้มที่ทำเป็นระเบิดแสวงเครื่องมาจอดที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 1-3 ได้เดินทางมาจากบ้านของจำเลยที่ 3 จ.ชลบุรี โดยก่อนที่จำเลยที่ 1 จะเข็นรถผลไม้มาหน้าพรรคภูมิใจไทย มีจำเลยที่ 2-3 คอยสังเกตการณ์และคอยบอกทางให้  และเมื่อนำรถเข็นผลไม้ไปจอดที่หน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วไม่เกิดระเบิด จำเลยที่ 3 จึงแจ้งให้จำเลยที่ 1 กลับไปตรวจสอบระเบิดในรถเข็น ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้เข็นรถเข็นมาไว้ที่ด้านหลังพรรคภูมิใจไทยและใช้มือล้วงเข้าไปเพื่อตรวจสอบวงจรระเบิด แต่เกิดระเบิดขึ้นก่อน ประกอบกับมีการตรวจภาพวงจรปิดจากพรรคภูมิใจไทย และอาคารสยามนิสสัน ธนาคารออมสินที่อยู่บริเวณใกล้เคียงปรากฏภาพชายสวมเสื้อยืด กางเกงสีเข้ม สวมหมวกแก๊ป ขณะที่พยานโจทก์ทั้งสองไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน เชื่อว่าพยานโจทก์เบิกความตามจริงตามหน้าที่ อีกทั้งจำเลยที่ 1-3 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนถึงพฤติการณ์และเหตุจูงใจในการกระทำดังกล่าว  ซึ่งจำเลยที่ 1-3 ย่อมทราบดีกว่าการกระทำของตนมีโทษตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งสิทธิ์และอัตราโทษให้จำเลยรับทราบแล้ว

             ขณะเดียวกันก็ยังมีทนายความร่วมอยู่ด้วย จึงไม่มีเหตุที่จำเลยที่ 1-3 จะให้การปรับปรำตัวเองให้ได้รับโทษทางอาญา คำให้การของจำเลยจึงไม่ใช่ลักษณะของการซัดทอด โดยยังสอดคล้องกับหลักฐาน จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันทำระเบิดเพื่อให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สินและสถานที่ประชุม ซึ่งมีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ ที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 221 222 ประกอบมาตรา 218 371 และ 83  พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ

             อย่างไรก็ตาม พิพากษาให้จำคุก 2 กระทงๆ ละ 10 ปี ฐานมีระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และปรับ 100 บาท , ฐานพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ และให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานทำระเบิดให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินฯ และสถานที่ประชุม ซึ่งเป็นโทษหนักสุดตามมาตรา 222 และ 218 จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ให้จำคุกรวมทั้งสิ้น 35 ปี และปรับ 50 บาท

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ