บรรหาร-ชุมพลเยี่ยมเหยื่อพลุระเบิด

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 ม.ค. 55  นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์พลุระเบิด พร้อมกับได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 10,000 บาท โดยนายบรรหารรับปากว่า จะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกรายอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวจะทอดทิ้ง พร้อมทั้งกล่าวว่า "เสียใจด้วย ขอโทษด้วย ไม่ได้ตั้งใจให้เหตุเกิด..."

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐและเอกชน เจ้าหน้าที่วิทยาการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้ระเบิด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้กันที่เกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่อันตราย ไม่ให้เจ้าของบ้าน หรือประชาชนเข้าไปในเขต เนื่องจากต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บหลักฐานและเคลียร์พื้นที่ให้มีความปลอดภัยก่อน

          นายสมศักย์ กล่าวว่า สาเหตุอย่างเป็นทางการของพลุระเบิดขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจุดพลุหรือขัดข้องจากวัสดุอุปกรณ์ ขณะนี้ยังมีพลุที่เตรียมไว้จุดในงานคืนต่อไปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้อายัดห้ามเคลื่อนย้ายพลุออกจากพื้นที่อย่างเด็ดขาด และได้ขอความร่วมมือไปยังคณะผู้จัดให้งดการจัดงานต่างๆ เอาไว้ก่อน  เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย  ขณะที่ตามกำหนดเดิมงานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24- 29  ม.ค. นี้

          ขณะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดไปด้วย ทางจังหวัดได้ตั้งเต้นท์เป็นศูนย์อพยพพักพิงชั่วคราว และเปิดให้ผู้ประสบภัยแจ้งความเสียหาย ล่าสุดมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พลุระเบิดครั้งนี้แล้วกว่า 500 ราย โดยที่ศูนย์อพยพได้มีหน่วยงานราชการ มูลนิธิต่าง ๆ ช่วยกันนำสิ่งของ อาหาร น้ำดื่ม มาให้ผู้ประสบภัยเพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น

          ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช นายแพทย์สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ สาธารณสุขจังหวัด , นายแพทย์ชัชรินทร์ ปิ่นสุวรรณ ผอ.รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ได้ระดมทีมแพทย์ พยาบาล ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน และให้การรักษาอย่างเต็มที่ พร้อมกับคัดแยกผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หากคนไหนบาดเจ็บไม่มากก็ให้กลับบ้าน

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ราย ประกอบด้วย นายวินัย พันธ์แตง อายุ 30 ปี คนจุดพลุ ร่างถูกแรงระเบิดขาดสองท่อน , นายสามารถ ศรีนิล และนายวสันต์ ศรีสาธร อายุ 33 ปี ทีมงาน ถูกเปลวไฟเผาร่างไหม้เกรียม ล่าสุดนางลำยอง พานสกุล อายุประมาณ 50 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตแล้ว ส่วนคนเจ็บที่เข้ารักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ทั้งสิ้น 60 ราย ขณะนี้เหลือนอนพักรักษาตัว 15 ราย อาการสาหัส 1 ราย ในห้องไอซียู คือ นายธนิต กลิ่นเกตุ พนักงานดับเพลิงของเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนที่ รพ.ศุภมิตร มีคนได้รับบาดเจ็บรวม 14 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 9 ราย ยังนอนพักรักษาตัว 5 ราย เป็นพระสงฆ์ 1 ราย

          ในส่วนของทางมูลนิธิฯ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ยืนยันให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกรายอย่างเต็มที่ โดยผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จะให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ราชการอย่างรวดเร็ว พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ระดม พนักงานสอบสวนจากโรงพักในพื้นที่ มารับแจ้งความจากผู้ที่บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยตั้งศูนย์รับแจ้งที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ และที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

          นางสมเจตน์ พรหมสุนทร หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ ผู้ประสบภัยจะได้รับความช่วยเหลือ  กรณีเสียหายบางส่วนจะได้รับความช่วยเหลือรายละ 20,000 บาท ตามสภาพจริง ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จะได้รับการช่วยเหลือหลังละ 30,000 บาท ส่วนผู้ที่เสียชีวิตจะได้รับค่าทำศพรายละ 25,000 บาท ถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัว จะได้รับเพิ่มอีก 25,000 บาท  ส่วนสาเหตุการระเบิดจากการสอบถามเกิดจากการวางท่อในแนวเอียง ทำให้พลุพุ่งเข้าไปในกองของพลุที่ยังไม่ได้ยิง ทำให้พลุเกิดการระเบิดขึ้น