ข่าว

มีหนาว บช.น.จัดสอบวัดความรู้ตร.จราจร ไม่ผ่านโดนย้าย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นครบาลเตรียมจัดสอบวัดความรู้ตำรวจจราจร 88 สน. - บก.จร. เผยเกณฑ์ตัดสินต้องผ่าน 80 ข้อขึ้นไป หากไม่ผ่านโดนย้ายไปสายงานอื่น

 

                 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 9 สิงหาคม 2562 พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. (ผู้ช่วยหัวหน้างานจราจร) เปิดเผยกรณีการสอบวัดความรู้ตำรวจจราจร ปี 2562 ว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจร เพราะเป็นเครื่องมือใช้ทำงานและสามารถชี้แจงให้ประชาชน หรือผู้ถูกดำเนินการจับกุมได้ อธิบายให้เข้าใจว่าผิดอย่างไรและอยู่ในมาตราใด ขณะนี้ตนได้รับข้อสอบมาแล้วกว่า 1,000 ข้อ การกำหนดวันสอบได้ปรึกษาหารือกับ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. (หัวหน้างานจราจร) สรุปได้ว่า เราจะมีการอบรมก่อนในเรื่องของงานจราจร กฎหมายจราจร หลังจากนั้นจึงให้มีการสอบวัดความรู้ประมาณต้นเดือน ก.ย.เพื่อประเมินว่าตำรวจจราจร บช.น.มีความรู้หรือผ่านการสอบหรือไม่อย่างไร

 

 

 

                 ทั้งนี้ สำหรับตำรวจที่เข้าหลักเกณฑ์สอบวัดความรู้ มีตั้งแต่ระดับ พ.ต.ท.(รอง ผกก.จร.) - ส.ต.ต.(ผบ.หมู่งาน จร.) สังกัด บก.น.1-9 ทุก 88 สน. และ บก.จร. รวมประมาณกว่า 3,000 นาย วิชาที่สอบเกี่ยวกับความรู้เรื่องข้อกฎหมาย กฎจราจร พ.ร.บ.ต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.จราจร พ.ร.บ.ขนส่ง พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ รวมถึงกฎจราจรใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง

                 โดยเป็นข้อสอบแบบปรนัย หรือกากบาท ทั้งหมด 100 ข้อ ข้อสอบไม่ยาก แต่จะให้อ่านไว้ประมาณ 1,000 ข้อ โดยแต่ละ บก.จะได้ข้อสอบไม่ซ้ำกัน ซึ่งจะสลับหมุนเวียนอยู่ใน 1,000 ข้อ ใช้เวลาในการสอบ 1 ชั่วโมงครึ่ง สถานที่สอบทาง บก.จะเป็นผู้รับผิดชอบจัดในส่วนของตัวเอง ส่วนเกณฑ์ตัดสินนั้นจะต้องสอบให้ผ่าน 80 ข้อขึ้นไป ผลสอบจะออกหลังจากวันสอบไม่กี่สัปดาห์

                 ขณะที่ผู้ประเมินข้อสอบเป็นหน้าที่ของ ศฝร. ร่วมกับ รอง ผบก.น.1-9 (งานจราจร) และ รอง ผบก.จร. บทลงโทษสำหรับตำรวจที่สอบไม่ผ่าน ในเบื้องต้นจะให้โอกาส แต่ถ้าหากยังสอบไม่ผ่านอาจจะมีคำสั่งให้ย้ายไปสายงานอื่น ซึ่งแต่ละสายงานมีบทกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ชัดเจน ตอนนี้ได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว ถือว่าให้เวลาเตรียมตัวสอบนานพอสมควร เป็นการสอบวัดความรู้ตำรวจจราจรครั้งแรกในปี 2562

 

 

 

                 พล.ต.ต.สุคุณ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประชาชนมีความรู้มากขึ้น ตำรวจจราจรไปเขียนข้อหาผิดๆ ไม่ถูกต้อง เช่น หยดน้ำแข็งจากรถย้อยใส่ถนนอย่างนี้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด หรือ พ.ร.บ.จราจร ต้องสามารถแยกแยะให้ออก ตำรวจจราจรกับประชาชน เกิดปัญหากระทบกระทั่งบ่อยครั้ง มีเสียงตอบรับมาว่าบางทีตำรวจเขียนข้อหาผิดบ้าง หรือพอเถียงกลับตอบไม่ถูก สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาต้องการเพื่อให้ตำรวจจราจรมีความรู้

                 เราคาดหวังไว้สูงเพราะตำรวจจราจรใน กทม.ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างมืออาชีพ ต้องเป็นตำรวจมืออาชีพ กฎจราจรคือเครื่องมือสำคัญในอาชีพตำรวจจราจร เราไม่ต้องการมือสมัครเล่น เราต้องการมาตรฐาน ขนาดใบสั่งยังเขียนไม่ถูกก็ต้องถูกลดระดับลง ไปอยู่ฝ่ายอำนวย ธุรการ ผู้ช่วยโบกรถ หรือประชาสัมพันธ์บนโรงพัก ก็เหมือนเป็นการลงโทษห้ามถือใบสั่งในตัว

                 “ไม่มีใครอยากลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา แต่การที่ทดสอบก็เพื่อจะแก้ไขว่าหน่วยงานของเรามีความเป็นมืออาชีพแค่ไหน ถ้าเราคิดว่ายังไม่เป็นมืออาชีพ ผู้บังคับบัญชาก็ต้องคิดหาทางแก้ ซึ่งไม่ได้เป็นการลงโทษฟาดฟันกัน เราต้องการให้เขาพัฒนาตื่นตัวเป็นตำรวจมืออาชีพ ตำรวจคนไหนไม่เหมาะสม โดยการประเมินของผู้บังคับบัญชา ก็มาพิจารณากันว่าควรจะอยู่ในสายงานนั้นต่อไปหรือไม่” รอง ผบช.น. กล่าว

                 ทั้งนี้ บช.น.เคยสอบวัดความรู้ตำรวจจราจรเมื่อปี 2560 ตั้งแต่ระดับ ร.ต.อ.(รอง สว.จร.) - ส.ต.ต.(ผบ.หมู่งานจราจร) รวมประมาณ 5,000 นาย สอบปรนัย 50 ข้อ เกณฑ์ตัดสินต้องสอบให้ผ่าน 45 ข้อขึ้นไป ครั้งนั้นมีตำรวจจราจรสอบไม่ถึง 5,000 นาย เนื่องจากบางรายติดภารกิจ ปรากฏว่ามีตำรวจสอบไม่ผ่าน 26 ราย จึงลงโทษโดยการไม่อนุญาตให้ถือใบสั่ง

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ