กังขา"กัญชาลาว"กับนักการเมืองไทย

 

 

          เมื่อ 29 กรกฎาคม 2562 กองพันเคลื่อนที่ป้องกันความสงบ (ตำรวจ) อัยการเขต 1 และนักวิชาการเฉพาะ แขวงสะหวันนะเขต ผนึกกำลังเข้าไปทำลายกัญชา 320 ต้น(ทั้งกัญชาสด-แห้ง) ที่บ้านสมสะอาด นครไกสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต

 

          หัวหน้าตำรวจลาว ไม่ได้ให้รายละเอียดการจับกุมครั้งนี้มากนัก นอกจากจะแถลงว่า กัญชาเป็นยาเสพติด และผิดระเบียบกฎหมายบ้านเมือง อีกทั้งเป็นการสกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบปลูกกัญชา

 

 

          พันโทบุนยู้ สายสุลิยะวงสา รองหัวหน้ากองบัญชาการตำรวจแขวงสะหวันนะเขต เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนหยุดปลูกกัญชา และการค้าขายยาเสพติด เพราะมันเป็นต้นตอของการก่ออาชญากรรม

          มีข้อน่าสังเกตจากภาพประกอบข่าวการทำลายกัญชา จะเห็นได้ว่า มีการปลูกกัญชาภายในโรงเรือน เหมือนการปลูกกัญชาเพื่อสกัดทำน้ำมันกัญชา (ดูภาพประกอบ)

          ข้ามโขงกลับมาทางบ้านเรา ถ้ายังจำกันได้ วันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้วิพากษ์นโยบายกัญชาเสรีของอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) แถมตอนท้ายยังบอกว่า “ทราบมาว่ามีนักการเมืองชั่วๆ บางคนบางกลุ่ม ปลูกกัญชาไว้ที่ประเทศลาวจำนวนมาก เพื่อหวังรวยอย่างเดียว”

 

 

 

 

          จริงๆ แล้ว ประเด็นนักการเมืองไทยไปจ้างปลูกกัญชาในลาวนั้น “เฉลิม” ไม่ได้เป็นคนแรกที่ปูดเรื่องนี้ ลองย้อนไปดูข่าวเก่า เมื่อ 2 พฤษภาคม 2562 ในการเสวนาเรื่อง “กัญชารักษาหรือเสพติด” ที่ห้องประชุมภูมิแผ่นดิน มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ปรากฏว่า เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ได้เล่าประสบการณ์ที่ได้ยินมาจากฝั่งลาวว่า

          “คนที่เป็นหมอใหญ่ของลาว และทำเรื่องกัญชาใหญ่ที่สุดในลาวมาหาผม เขาบอกว่า เมื่อปีที่แล้วมีนักการเมืองไทยคนหนึ่ง ได้ว่าจ้างให้คนลาวปลูกกัญชาหลายพันไร่ สามารถกลั่นเป็นน้ำมันได้ถึง 30 ตัน ราคากลางลิตรละ 5 แสนบาท หรือตันละ 500 ล้านบาท...ปีนี้เขาจะไปทำอีก แต่ทางการลาวห้าม แต่ 30 ตันที่เขามีอยู่กำลังหาทางปล่อยอยู่”

          ฟังข่าวแล้ว ต้องค่อยๆ เคี้ยว และค้นหาความจริงด้วย อย่าเพิ่งไปเชื่อ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือเดชา ศิริภัทร พูดเท่านั้น

          เหมือนกรณีที่มีข่าวการปล่อยข่าวว่า รัฐบาลลาว ไฟเขียวตั้งโรงงานผลิตยารักษามะเร็งจากกัญชา หากมีการติดตามข่าวสารจากทางการลาว ก็จะพบว่า กรณีที่ว่านั้น เป็นข่าวปั่นข่าวปลอม

 

 

 

          เมื่อ 13 มีนาคม 2562 ท่านทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้สั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ทำหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงป้องกันความสงบ และกระทรวงป้องกันประเทศ เรื่องรัฐบาลไทยแก้ไขกฎหมาย เพื่อนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์

          1.มอบให้กระทรวงการต่างประเทศ ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องกัญชารักษาโรค ให้ละเอียดเสียก่อน จึงรายงานรัฐบาลรับทราบ

          2.มอบให้กระทรวงป้องกันประเทศ และกระทรวงป้องกันความสงบ นครหลวงเวียงจันทน์ และบรรดาแขวง เอาใจใส่สกัดกั้นการลับลอบปลูกกัญชา และซื้อขายกัญชา ในห้วงเวลาที่ไม่มีกฎหมายรับรอง

          3.ห้ามบุคคล นิติบุคคล เคลื่อนไหวทำกิจกรรมใดๆ เกี่ยวกับกัญชา และสิ่งที่ผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด

          สรุปกันชัดๆ รัฐบาลลาวยังถือว่า กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และสั่งการให้แขวงต่างๆ ปราบปรามการลักลอบปลูกกัญชา และซื้อขายกัญชา

          แม้มีข้อเสนอสร้างโรงหมอรักษาโรคมะเร็งด้วยยาพื้นเมืองที่สกัดจากกัญชา เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลลาวก็ได้ขอให้ศึกษาวิชาการจากประเทศเพื่อนบ้าน และพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับนิติกรรม จึงไม่อนุญาตตามคำขอดังกล่าว

          เท่าที่ติดตามข่าวสารจากทางฝั่งซ้าย ส่วนใหญ่จะพบข่าวการจับกุมผู้ค้ายาบ้า ยาไอซ์ แต่เรื่องจับกัญชามีน้อยมาก และที่เป็นข่าวใหญ่ มีภาพโรงเรือนปลูกกัญชา ก็เพิ่งเกิดขึ้นที่สะหวันนะเขตเป็นรายแรก

          ข่าวนักการเมืองไทยจ้างคนลาวปลูกกัญชา จะเป็นเรื่องจริงหรือมโน ก็ต้องติดตามกันต่อไป อย่าเพิ่งด่วนเชื่อข่าวในโซเชียลง่ายๆ เพราะข่าวปลอมเยอะ