สิทธิของผู้หญิงมีครรภ์ถูกตั้งคำถามอีกครั้งที่รัฐแอละบามา
( ภาพ AL.com )
การจับกุม มาร์เช โจนส์ สตรีวัย 27 ปี มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มทุกขณะ เกี่ยวกับสิทธิทำแท้ง หลังจากกว่า 12 รัฐทางใต้และตะวันตกค่อนไปทางภาคกลางของสหรัฐอเมริกา รวมถึงรัฐแอละบามา ผ่านกฎหมายจำกัดทำแท้งอย่างเข้มงวด ซึ่งกำลังถูกยื่นคัดค้านในศาล
เดอะ เยลโลว์แฮมเมอร์ ฟันด์ ที่ให้ทุนช่วยเหลือสตรีที่ต้องการทำแท้งในรัฐแอละบามา ทวีตว่า มาร์เช โจนส์ ถูกยื่นฟ้องข้อหาฆาตกรรม หลังถูกยิงที่ท้อง 5 นัด เป็นเหตุให้ทารกในครรภ์เสียชีวิต แต่มือปืนยังเป็นอิสระ องค์กรกำลังเตรียมให้ความช่วยเหลือ
เหตุเกิดในเมือง พลีซัน โกรฟ เมื่อ 4 ธันวาคม โจนส์ วัย 27 ปีขณะตั้งครรภ์ 5 เดือน ทะเลาะกับ เอโบนี เจมีสัน วัย 23 ปี หน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องพ่อของเด็ก เจมีสันลั่นไกใส่คู่กรณี 5 นัด กระสุนบางส่วนเข้าที่ท้อง เหยื่อรอดตายแต่สูญเสียทารกในครรภ์ ส่วนมือปืน ตอนแรกถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม แต่คณะลูกขุนปฏิเสธส่งฟ้อง ข้อหาจึงตกไป กลายเป็นโจนส์ที่ถูกยิงและเสียลูกในท้องถูกแจ้งข้อหารายเดียว
รัฐแอละบามาเป็นหนึ่งใน 38 รัฐที่มีกฎหมายฆาตกรรมทารกในครรภ์ และถูกวิจารณ์มาตลอดกับการให้น้ำหนักกับทารกในครรภ์มากกว่าสวัสดิภาพของสตรีที่อุ้มท้อง
ตำรวจสรุปผลสอบสวนในคดีนี้ว่า เหยื่อที่แท้จริงรายเดียวคือ ทารกที่ไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก เพราะแม่ของเด็กเริ่มก่อนและยังต่อสู้ จนเป็นผลให้ทารกในท้องตาย ส่วนเหตุที่อีกฝ่ายยิง ตำรวจสรุปว่าเป็นการป้องกันตัวเอง
เมื่อวันพุธ คณะลูกขุนมีความเห็นส่งฟ้องโจนส์ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา เธอถูกส่งตัวเข้าเรือนจำในเจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี และตั้งวงเงินประกัน 5 หมื่นดอลลาร์
รัฐแอละบามาเพิ่งผ่านกฎหมายห้ามทำแท้ง ไม่เว้นกระทั่งกรณีข่มขืน เพศสัมพันธ์ระหว่างสายเลือด และถือเป็นความผิดเทียบเท่าฆาตกรรม แพทย์ที่ช่วยทำแท้งอาจติดคุก 99 ปี กฎหมายจะมีผลในเดือนพฤศจิกายน แต่คาดว่าศาลจะมีคำสั่งยับยั้งเพราะขัดคำพิพากษาศาลสูงที่ส่งผลให้การทำแท้งเป็นเรื่องถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ในปี 2516
ข่าวที่เกี่ยวข้อง