ข่าว

"ชุมสาย" ยกคดีรถโฟล์ค "สุพจน์" เทียบนาฬิกาหรู "บิ๊กป้อม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ชุมสาย" คาด​ ป.ป.ช. ระบุยืมของเพื่อนไม่ต้องแจ้งทรัพย์สิน หวังปกป้อง "บิ๊ก​ป้อม" ต่างจาก "ปลัดสุพจน์" อย่างน่ากังขาถึงมาตรฐานการทำงาน

 

               นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่​ ปปช.ชี้แจงกับ​ ส.ส.ในการสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่า ทรัพย์สินที่ได้มาจากผู้อื่น ไม่ถือว่าเป็นทรัพย์สินของตนเองไม่ต้องยื่นรายการต่อป.ป.ช. น่าเชื่อว่าเป็นความประสงค์เพื่อสอดคล้องกับกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ อ้างว่านาฬิกาหรูกว่า​ 25 เรือนนั้นได้ยืมมาจากเพื่อนสนิทซึ่งเสียชีวิตแล้วจึงไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. และต่อมา​ป.ป.ช.ก็ชี้มูลว่าไม่มีความผิดใดๆ​ โดยหากพิจารณาถึงเจตนารมณ์ในการตรากฎหมายป.ป.ช.ดังกล่าว ไม่น่าจะมีความมุ่งหมายเช่นนั้น เพราะหากตีความตามตรรกะนี้ จะไม่มีทางตรวจสอบการทุจริตตามกฎหมายป.ป.ช.ได้เลย โดยผู้ถูกกล่าวหา จากป.ป.ช.ทุกคนทั่วประเทศ อาจจะอ้างว่าทรัพย์สินของตนได้ยืมเพื่อนมาทั้งสิ้น จึงอาจถือได้ว่าการตีความกฎหมายเช่นนี้เป็นเพียงเพื่อปกป้องผู้ใหญ่ในรัฐบาลคสช.ท่านหนึ่งเท่านั้นยังมีอยู่

               นายชุมสาย กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าวนี้เมื่อได้เทียบเคียงกับคดีที่นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ถูก​ ป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องรถโฟล์คสวาเกน ราคา 2.9 ล้านบาท ที่ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ​ต่อป.ป.ช. แต่​ ป.ป.ช.ไม่เชื่อว่ารถดังกล่าวไม่ใช่ของนายสุพจน์ แม้ว่ารถจะอยู่ในชื่อผู้อื่น​ และยังอ้างว่าได้คืนให้กับเจ้าของรถไปแล้วก็ตาม

               กรณีนี้​ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับสังคมต่อมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ของป.ป.ช.ก็คือทำไมกรณีพลเอกประวิตรยืมนาฬิกาหรูจำนวนมากและมูลค่าสูง จึงถูกป.ป.ช. ลงมติปิดคดีโดยเชื่อคำกล่าวอ้างของพลเอกประวิตร ไม่ส่งคดีนี้ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้พิจารณาคดีและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาล ทั้งๆที่กระแสสังคมไม่เชื่อตามข้ออ้างของพล.อ.ประวิตร ที่ยังคงครอบครองนาฬิกาหรูอยู่ ทั้งๆที่เจ้าของนาฬิกาได้เสียชีวิตไปแล้ว ในขณะที่กรณีของนายสุพจน์ ป.ป.ช.กลับไม่เชื่อว่ารถได้ยืมจากผู้อื่นมาตามที่นายสุพจน์อ้าง และเมื่อคดีไปสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองศาลก็เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษาจำคุกไป

               นายชุมสาย กล่าวอีกว่า การที่​ ป.ป.ช.ไม่ชี้มูลความผิดกรณี​ พล.อ.ประวิตร ว่ามีพฤติการณ์ปกปิดและไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ทำให้น่าสงสัยว่า ป.ป.ช.มีเจตนาจะช่วยเหลือกันใช่หรือไม่​ ทั้งนี้เพราะประธานป.ป.ช.คือ​ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ในอดีตเคยเป็นลูกน้องคนสนิทของ​ พล.อ.ประวิตร มาก่อน จึงอาจจะเอื้อประโยชน์กันได้

               “และการที่ พล.อ.ประวิตร​ จะได้กลับมาเป็นรองนายกฯ​ อีกครั้ง ก็เท่ากับว่ารัฐบาลประยุทธ์2 นำผู้ที่มีข้อครหา เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย ในความสุจริตมาทำงานร่วมรัฐบาลด้วย” นายชุมสาย กล่าว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ