ข่าว

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปส. บุกรวบเครือข่าย "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ยึดของกลาง - ทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า 200 ล้าน

 

               เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2562 ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)  พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่ ปส.1 - 4 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวนหลายคดี ได้แก่

 

 

 

               คดีแรก จับกุม นางสาวจันทร์เพ็ญ วิเชียรฉาย หรือ อินอ่อน อายุ 32 ปี นายชาญยุทธ เนาวบุตร อายุ 37 ปี นางสาวภัทรรินทร์ หรือ เฟรม เพชร์นอก อายุ 23 ปี และนายอิทธิพล ภูนายาว อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานซึ่งประกอบธุรกิจผลิตน้ำดื่มขายบังหน้า โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา

               พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า บก.ปส.2 ได้สืบสวนติดตามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานที่ลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศลาวมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และส่งออกต่างประเทศผ่านภาคใต้ โดยทำธุรกิจน้ำดื่มบังหน้า ก่อนนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปลงทุนทำรีสอร์ทในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกน้องเครือข่ายได้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ อุ้มหญิงที่เบี้ยวเงินค่ายาเสพติดไปจากหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ต่อมาภายหลังสามารถจับกุมได้ทั้งผู้กระทำผิดและผู้ถูกกระทำพร้อมยาบ้าของกลาง 4,000 เม็ด

               ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ เป็นเงินสดกว่า 2,902,959 บาท บ้านพร้อมที่ดิน 13 หลังรวมกว่า 21,000,000 บาท ทองรูปพรรณโทรศัพท์มือถือรถยนต์และของกลางอื่นอีก รวมทั้งหมด 34.8 ล้านบาท พร้อมขยายผลจับกุมตัว นายภูษิต หรือ บิว อินอ่อน หัวหน้าเครือข่าย ซึ่งหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่แนวทางการสืบสวนทราบว่าคนร้ายรายนี้ได้เข้าสู่วงการยาเสพติดตั้งแต่อายุ 17 ปี มาจนถึงปัจจุบัน
 

 

 

               พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวต่อ คดีที่ 2 จับกุม นายสุนทร แต่งกลิ่นหอม อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมของกลางกัญชา 300 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุก Chevrolet และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมัน อ.ปทุมรัตน์ จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

               ก่อนเกิดเหตุชุดจับกลุ่มสืบทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดของนางย้อยไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดมุกดาหารมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้รถยนต์คันที่ก่อเหตุเป็นพาหนะ จึงวางแผนสกัดจับกุมได้ดังกล่าว

               เบื้องต้น แจ้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

               คดีที่ 3 ตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 45 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 27,900 กรัม ภายหลังรับแจ้งเบาะแสจากเจ้าหน้าที่บริษัทรับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ออกนอกราชอาณาจักร พบพัสดุระหว่างประเทศปลายทางประเทศสหรัฐอเมริกาต้องสงสัย เป็นกล่องบรรจุผลไม้อบแห้ง นมผงพร่องมันเนย เครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูป เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นเกล็ดใสบรรจุในถุงพลาสติก เมื่อหยดน้ำยาทดสอบเบื้องต้น แสดงผลเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จึงตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

               คดีที่ 4 จับกุม นายสุชาติ หรือ โกจ้อง เก้าเอี้ยน อายุ 40 ปี และนายวีรศักดิ์ หรือ เล็ก พรรณราย อายุ 29 ปี และของกลางยาบ้า 710,000 เม็ด อาวุธปืนขนาด 6.35 ม. พร้อมกระสุนปืน 14 นัด พร้อมทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบอีกหลายรายการ

               สืบเนื่องจากช่วงปลายปี 2561 บก.ปส.4 ขยายผลกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดจนทราบว่านายสุชาตินำยาเสพติดไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักใน จ.สงขลา จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพบยาบ้า 1 แสนเม็ด ผู้ต้องหาให้การรับว่านายวีรศักดิ์สั่งให้นำมาเก็บไว้ ตำรวจจึงวางแผนนัดพบกับนายวีรศักดิ์ที่ศาลาพักริมทาง ถนนสิงหนคร - สงขลา ก่อนจับกุมพร้อมยาบ้าอีก 6 แสนเม็ดที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ ก่อนขยายผลเพิ่มเติมและนำผู้ต้องหาทั้งส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อนายสุชาติฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งเป็นของบุคคลอื่นไว้ในครอบครอง และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ต่อนายวีรศักดิ์

               คดีที่ 5 จับกุม นายสมนึก ศรีนิ่มนวล อายุ 54 ปี นางสาวจารุณี แซ่หมื่อ อายุ 24 ปี และนายวันเฉลิม แซ่หมื่อ อายุ 31 ปีพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 120,000 เม็ด รถยนต์ 2 คันและของกลางอื่นที่ยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 11,560,000 บาท

 

 

 

               เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้าและลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงราย ไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์นำทางให้กับขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดจาก ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ก่อนสกัดจับกุมได้บริเวณสามแยกบ้านทุ่งหลวง หมู่ 6 ต.ดอนศรีชุม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

ปส. รวบ "ปั้นน้ำเป็นเงิน" อุ้มหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ