ส่วนใหญ่เป็นโรคที่ป้องกันได้ แต่เชื้อบางตัวมีวิวัฒนาการดื้อยาต้านแบคทีเรีย
( คมชัดลึกออนไลน/ ข่าวต่างประเทศ) องค์การอนามัยโลก ระบุในรายงานเมื่อวานนี้ ( 6 มิ.ย.) ว่า ปัจจุบัน ทั่วโลกมีอัตราการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศ กว่า 1 ล้านคนในแต่ละวัน โดยอัตราการติดเชื้อคลามัยเดีย หรือหนองในเทียม โกนอร์เรียหรือ โรคหนองใน ทริโคโมแนส และซิฟิลิส น่ากังวลมากที่สุด
รายงานที่อิงข้อมูลทั่วโลกปี 2559 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดที่มี พบชายและหญิงอายุ 15-49 ปี มีผู้ติดเชื้อหนองในเทียมรายใหม่ 127 ล้านคน ติดเชื้อหนองใน 87 ล้าน ซิฟิลิส 6.3 ล้าน และทริโคโมแนส 156 ล้าน
การติดเชื้อส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ไม่ยาก และสามารถรักษาได้ แต่บางชนิดโดยเฉพาะโรคหนองใน มีวิวัฒนาการเป็นแบคทีเรียดื้อยา หรือ ซูเปอร์บัก ที่จะทำให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะทำได้ยากขึ้นทุกที
ดร. ทีโอโดรา วี เจ้าหน้าที่การแพทย์ สำนักงานวิจัยและสุขภาวะเจริญพันธุ์ องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า โรคติดต่อทางเพศมีอยู่ทุกหนแห่งและมากกว่าที่เราคิดกันโดยทั่วไป
โรคติดต่อทางเพศ หรือ เอสทีไอ เป็นภัยคุกคามสาธารณสุข ที่ส่งผลกระทบลึกซึ้งต่อสุขภาพเด็กและผู้ใหญ่ หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจลุกลามเป็นโรคเรื้อรังและปัญหาสุขภาพร้ายแรง รวมถึงโรคระบบประสาทและหัวใจ ภาวะมีบุตรยาก ตั้งครรภ์นอกมดลูก ทารกตายคลอด และเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี
เฉพาะโรคซิฟิลิสอย่างเดียว เป็นสาเหตุของทารกตายคลอดราว 2 แสนราย ในปี 2559 เป็นหนึ่งในสาเหตุอันดับต้นๆของการสูญเสียทารกทั่วโลก
โรคติดต่อทางเพศที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สามารถรักษาด้วยยาที่หาได้ทั่วไป แต่ผลศึกษาองค์การอนามัยโลกพบว่าปัญหายาเบนซาทีนเพนนิซิลิน ขาดแคลนทั่วโลก เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้การควบคุมซิฟิลิสเป็นไปได้ยาก
ส่วนโรคโกนอร์เรีย หรือหนองใน ก็กำลังเป็นภัยคุกคามสาธารณสุขมากขึ้น เพราะปัญหาดื้อยา แพทย์ระบุว่า เรากำลังเผชิญการอุบัติของโรคที่เรียกว่า ซูเปอร์โกนอร์เรีย ที่ในทางปฏิบัติ การรักษาอาจเป็นไปไม่ได้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง