ข่าว

"ภูมิธรรม"เชื่อ "มิ่งขวัญ"- "เศรษฐกิจใหม่" ยังจะรักษาสัญญา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ภูมิธรรม" เชื่อ "มิ่งขวัญ"- "พรรคเศรษฐกิจใหม่" ยังจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้

      23 พ.ค.62-ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี วันที่ 23 พ.ค.62  ระหว่างเดินทางมาร่วมให้กำลังใจนายพานทองแท้ ชินวัตร ตรวจหลักฐานคดีตกเป็นจำเลยฟอกเงินธนาคารกรุงไทยฯ "นายภูมิธรรม เวชยชัย" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลว่า 7 พรรคเราคุยกันเกือบทุกวันในสถานการณ์ขณะนี้ 7 พรรคเราเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ก็ต้องยืนยันว่าจนถึงวันนี้ 245 เสียง ยังแข็งแรง ไม่มีปัญหาอะไร ขณะนี้ก็ใกล้วันเข้ามาแล้ว ยังยืนยันในข้อตกลงทั้ง 7 พรรคเหมือนเดิม ก็พยายามพูดคุยกับพรรคอื่นๆ วันนี้เราไม่ได้เร่งรัดอะไร เราทราบดีว่าทุกพรรคต่างรู้ว่าประเทศกำลังต้องการการตัดสินใจ เวลาก็รอถึงวันที่ 25 พ.ค. เป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจว่า ส.ส. ที่ได้รับเลือกมาจะตัดสินใจไปในทิศทางไหนอย่างไร ตรงนั้นจะชัดเจน

 

 

 

          เมื่อถามว่า การเจรจากับพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยคืบหน้าหรือไม่ "นายภูมิธรรม" กล่าวว่า ยังเชื่อว่าทั้งหมดที่คุยกันมีความคืบหน้าไปในทางที่ดี หลายส่วนก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันในแต่ละพรรคแต่ละส่วนของตัวเอง ความคิดเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ต่างฝ่ายต่างมีความเห็นหลายส่วน ก็ต้องรับฟังกันให้กว้างขวางที่สุด เราต้องการทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนทั้งหมดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ คือทางออกของประเทศชาติที่ดีที่สุดจริงๆ เพียงแต่ว่าวันนี้เราอยู่ในช่วงของการต่อสู้ทางจิตวิทยา มีคนพยายามจะบอกว่าเรียบร้อยแล้วทุกวัน ตนรอเพียงตั้งโต๊ะนั่งแถลงข่าว มีหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคจับมือกัน อย่างนั้นถือว่าทุกอย่างยุติ วันนี้ยังเป็นแค่พยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ก็พูดไปได้ทุกวัน

           "นายภูมิธรรม" กล่าวต่อไปว่า ที่ทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกว่ายุติ เรียบร้อยแล้ว ตนนับยังไงก็ได้ 130 เสียง นับพรรคเล็กรวมให้แล้ว ของเราชัดเจน 245 เสียง ส่วนพรรคที่เหลือมีท่าทีชัดเจนก่อนการเลือกตั้งว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อ และใช้เรื่องนี้หาเสียงเลือกตั้งเป็นทิศทางหลักมาตั้งแต่ต้น ตนก็ยังไม่เชื่อว่าพรรค พปชร. จะสามารถรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ การที่บอกว่าตัวเองพร้อมจะเป็นนายกฯ ได้แน่นอน หวังพึ่งเสียง ส.ว. ตนเรียนแล้วว่าต้องพยายามสะท้อนเจตนารมณ์ประชาชน ที่ประชาชนสะท้อนผ่านการเลือกตั้ง ส.ว. โดยมารยาทต้องทำหน้าที่สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนให้มากที่สุด ทั้งนี้ ถ้าชัดเจนในวันที่ 25 พ.ค. สะท้อนเจตนารมณ์ของพรรคการเมือง 7 พรรคสามารถร่วมมือพรรคอื่นอีกเลือกประธานสภาได้ จากนั้นก็เลือกนายกฯ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล

             เมื่อถามถึงการที่เสียงของ ส.ว. จะทำให้ได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน "นายภูมิธรรม" กล่าวว่า วันนี้เราไม่ได้ไปสรุปแทนคนอื่นว่าเขาจะได้ข้างมากข้างน้อย เราพูดในหลักการชัดเจนตั้งนานแล้วว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งมั่นคงต้องได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แม้จะพยายามใช้วิธีการพิเศษพิสดารในการได้มาซึ่งนายกฯ แล้วไปจัดตั้งรัฐบาล เสียงข้างน้อยจะทำงานไม่ได้ เพราะการบริหารทั้งหมด การออกกฎหมายต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร เรื่องจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีเสียงเกิน 251 เสียงขึ้นไปจะมีปัญหามาก และทำให้ประเทศยิ่งเสียโอกาสไปเรื่อยๆ ผู้ที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย และไม่เป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาประเทศ อย่าฝืนความเป็นจริงของธรรมชาติ หรือฝืนความต้องการของพี่น้องประชาชน วันที่ 25 พ.ค. ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร เสียงเรียกร้องจากสาธารณชนต้องการให้การเมืองอยู่ในสภาวะปกติที่จะเอื้อประโยชน์กับประชาชนโดยรวม ต้องจับตาดูวันที่ 25 พ.ค. อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้

              เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งคนชิงตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่ "นายภูมิธรรม" กล่าวว่า เราได้ทำหน้าที่ในนามของพรรคการเมืองอันดับ 1 ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติเราคงดำเนินการไปตามครรลอง แต่สถานการณ์นี้เราเปิดให้มีการรับฟังความเห็นจากสมาชิกของเราผ่านเว็บไซต์แล้ว ใครสมควรจะเป็นผู้แทนของพรรคที่จะไปดำเนินการอะไรก็ให้เสนอชื่อมา ปิดการเสนอชื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 24 พ.ค. ถ้าชัดเจนแล้ว และอยู่ที่การเมืองในวันเปิดประชุมสภา ถ้าเป็นสภาวะปกติคงเสนอชื่อตัวแทนของพรรคเพื่อไทยที่จะสมัครในตำแหน่งต่างๆ

         ขณะเดียวกัน "นายภูมิธรรม" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ  มีหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ด้วยว่า เพิ่งทราบอย่างไม่เป็นทางการจากสื่อมวลชน ซึ่งเคารพในการตัดสินใจของนายมิ่งขวัญเพราะเป็นสิทธิส่วนตัวแต่ยังเชื่อว่านายมิ่งขวัญจะรักษาคำพูดและคำมั่นสัญญาที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาการพูดคุยกับนายมิ่งขวัญไม่ได้พูดคุยในนามส่วนตัวแต่เป็นการพูดส่วนรวมกำหนดแนวทางอนาคตวันข้างหน้าที่จะร่วมกันทำงานของ 7 พรรคการเมือง แม้นายมิ่งขวัญจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ในฐานะ ส.ส.ก็ยังจะต้องรักษาจุดยืนของตนเองและรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ

           "นายภูมิธรรม" ยังกล่าวอีกว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติก็จะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และต่อจากนี้จะมีจัดกระบวนการที่แปลกๆ แบบนี้เกิดขึ้นจนกว่าจะมีระบอบประชาธิปไตยที่ปกติ ซึ่งเชื่อว่านายมิ่งขวัญไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ เพราะล่าสุดยังคุยกันเมื่อคืนนี้ หลังจากนี้จะได้ประสานพูดคุยกับนายมิ่งขวัญเป็นการส่วนตัวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงการลาออกครั้งนี้ว่ามีกระบวนการอยู่เบื้องหลัง หรือมีแรงกดดันหรือไม่ ส่วนการลาออกของนายมิ่งขวัญแล้วจะมีหัวหน้าพรรคคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่นั้นเชื่อว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่จะยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์เดิม เพราะทุกครั้งที่คุยกับ 7 พรรคการเมืองไม่ได้คุยเฉพาะกับหัวหน้าพรรคแต่คุยในนามพรรคการเมือง

         ส่วนที่การร่วมลงนามสัตยาบันของ 7 พรรคการเมือง มีเพียงพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่ได้ลงนามในหนังสือสัตยาบันนั้น "นายภูมิธรรม" กล่าวว่า ที่ผ่านมาระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่เคยลงนามหรือทำเป็นหนังสือสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาเป็นการพูดคุยกันทางวาจาปากเปล่าเท่านั้น

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ