โดย... ทีมข่าวอาชญากรรม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับความรุนแรงต่อเด็กซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทำอนาจารอย่างน้อย 5 คดี ขณะเดียวกันยังมีข่าวหรือเหตุการณ์ลักษณะนี้อยู่เป็นระยะ และที่น่าสะเทือนใจไปกว่านั้นฝ่ายกระทำเป็นคนใกล้ตัวของเด็กเอง มีทั้งพ่อแท้ๆ พ่อเลี้ยง ตา หรือปู่ รวมถึงญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งสะท้อนว่าเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
สอดคล้องกับข้อมูลจาก “ศูนย์พึ่งได้” โรงพยาบาลตำรวจ ที่ระบุว่า ภาพรวมของทั้งประเทศทุก 1 ชั่วโมง เด็กไทยตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ มียอดถึง 20,000 รายต่อปี เฉลี่ย 15 นาที จะมีเด็กถูกล่วงละเมิดเพิ่มขึ้น 1 คน ขณะที่เฉพาะศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ พบตัวเลขเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศที่มีช่วงอายุน้อยกว่า 6 ปี ประมาณ 10 คนต่อปี ส่วนอายุเฉลี่ยระหว่าง 10-18 ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศมากสุด 66.40 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นอายุระหว่าง 19-29 ปี จำนวน 14.68 เปอร์เซ็นต์
แน่นอนว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์เด็กไทยตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพยายามหาข้อมูลที่จำเป็นต่อรูปคดี เพื่อนำมาใช้รักษา เยียวยาสภาพจิตใจของเด็กที่ถูกล่วงละเมิด ทว่าหลายครั้งการตั้งคำถามที่ซับซ้อนซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กลับกลายเป็นการตอกย้ำเรื่องราวสะเทือนใจ หรือในบางกรณีมีปัญหาเรื่องวัยและการใช้ภาษา จึงทำให้การสืบสวนเข้าใจไม่ตรงกัน ยากต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครื่องมือช่วยประกอบการสอบถาม ที่มีความเหมาะสมต่อบริบทต่างๆ ซึ่งจะเป็นการเติมเต็มช่องว่างในการสื่อสารให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ จึงคิดค้นการใช้ “ตุ๊กตา” ช่วยในการสัมภาษณ์เด็กเพื่อบอกรายละเอียดในการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะนอกจากช่วยเหลือพนักงานสอบสวนในการพูดคุยกับผู้เสียหาย ยังช่วยอธิบายสภาพเหตุการณ์ที่ถูกละเมิดได้อย่างครบถ้วน ช่วยสื่อสารกับนักจิตวิยา พยาบาลที่ให้คำปรึกษาได้อย่างชัดเจน โดยอวัยวะส่วนต่างๆ ของตุ๊กตาจะช่วยในการสื่อสารกับเด็กๆ ให้บอกรายละเอียดในการล่วงละเมิดทางเพศได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อวัยวะเพศชาย อวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก ปาก และ เส้นผม ซึ่งเป็นจุดหลักที่คนร้ายมักกระทำมากที่สุด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.ท.ศุภชัย ต้นพงษ์ พยาบาล (สบ 3) กลุ่มงานพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะทีมประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลตำรวจ และปฏิบัติหน้าที่ศูนย์พึ่งได้ รวมทั้งเป็นผู้ดูแลเพจ “because we careเพราะเราใส่ใจ” อธิบายว่า ศูนย์พึ่งได้ดำเนินงานมากว่า 15 ปีแล้ว เล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับกรณีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย โดยปัญหาก่อนหน้าสำหรับการสัมภาษณ์เด็กที่ถูกกระทำคือ เด็กได้รับความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ แม้ทุกคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเด็กจะมีทีมสหวิชาชีพมาสอบถามข้อมูล แต่เด็กเกิดความกลัวไม่กล้าพูด บางรายก็ไม่พูดเลย ฉะนั้นจึงต้องหาเครื่องมือมาช่วยทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย ไว้ใจ และจะค่อยๆ เล่ารายละเอียดสิ่งที่เกิดขึ้นมาจนหมด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี รวมถึงการเยียวยารักษาทั้งร่างกายและจิตใจให้เด็กที่ถูกกระทำกลับมาเป็นปกติ ซึ่งก็ค้นพบว่าตุ๊กตาก็เป็นเครื่องมือที่สามารถเยียวยาเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ และช่วยในการสัมภาษณ์ สอบสวนทางคดีที่ได้ผลเป็นอย่างดี
“การที่เด็กส่วนมากผูกพันกับตุ๊กตา อาจเริ่มมาจากความผูกพันเนื่องจากเป็นของเล่นชิ้นแรกๆ ที่พวกเขารู้จัก การนำเอาตุ๊กตามาวางไว้ใกล้ๆ เตียงขณะลูกหลับเป็นผลดี เมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับตุ๊กตาที่คุ้นเคย เพราะสำหรับเด็กๆ แล้วตุ๊กตาก็เปรียบเหมือนตัวแทนในยามที่คุณแม่ไม่อยู่" พ.ต.ท.ศุภชัย กล่าว
ที่ผ่านมาตุ๊กตามีประสิทธิภาพเพียงพอให้ช่วยเหลือพนักงานสอบสวน ช่วยให้ผู้เสียหายอธิบายภาพเหตุการณ์ที่ถูกล่วงละเมิดได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งสื่อสารกับ นิติแพทย์ พยาบาลที่ให้คำปรึกษา นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ได้อย่างชัดเจน ตลอดเวลา 15 ปีที่ดำเนินการมาของศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ โดยจับมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
พ.ต.ท.ศุภชัย อธิบายอีกว่า ถ้ามีกรณีการถูกล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แนะนำให้พามาที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลตำรวจ เพราะอุปกรณ์ เครื่องมือที่พร้อม สามารถตรวจเก็บหลักฐานสำคัญทางคดีได้ โดยทันทีที่มาถึงจะให้ตรวจร่างกายที่ห้องฉุกเฉิน ต้องย้ำว่าไม่ต้องสวนล้างช่องคลอด รวมทั้งกางเกงชั้นใน เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน ของพวกนี้เก็บมาให้หมด เพราะจะเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นคราบอสุจิ สารคัดหลั่ง เส้นขนของคนร้าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้นำมาตรวจเทียบดีเอ็นเอได้ และให้ยาต้านไวรัสที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลตำรวจ จากนั้นจะนัดให้เข้ามาคลินิกศูนย์พึ่งได้เป็นลำดับต่อไป เมื่อเข้าสู่กระบวนการสอบถามหรือสัมภาษณ์ก็จะเป็นการดำเนินการของสหวิชาชีพ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิง พนักงานสอบสวนหญิง และใช้ตุ๊กตาเป็นเครื่องมือช่วย โดยจะค่อยๆ ดำเนินการให้เด็กผ่อนคลายและไว้ใจ จากนั้นเด็กจะพูด หรือถ้าไม่พูดก็จะใช้การชี้นิ้วไปที่อวัยวะส่วนต่างๆ ของตุ๊กตาว่า ตัวเองถูกกระทำตรงไหนบ้าง ตลอดจนการเยียวยาจิตใจเมื่อเกิดคดี และรักษา ให้ยาป้องกันเชื้อต่างๆ ที่ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจให้บริการฟรี
เรื่องสำคัญสำหรับการขอความช่วยเหลือกับศูนย์พึ่งได้ที่ พ.ต.ท.ศุภชัย ย้ำว่า หลังถูกล่วงละเมิดทางเพศควรมาห้องฉุกเฉินในทันที เพื่อจะได้ให้ยา “เป๊ป (PEP)” หรือ Post-Exposure Prophylaxis ซึ่งเป็นยาต้านเชื้อเอชไอวีแบบฉุกเฉิน ให้รีบมาตรวจก่อน ค่อยไปแจ้งความทีหลัง แต่ไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง ถือว่าเป็น 72 ชั่วโมงทอง เนื่องจากงานวิจัยระบุว่ายาตัวนี้จะใช้ได้ผลในช่วง 72 ชั่วโมงเท่านั้น หากมาทันทีจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าปล่อยผ่านไปหลายชั่วโมงประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงตามลำดับ โดยยา PEP จะให้ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศทานต่อเนื่อง 28 วัน และนัดเจาะเลือดซ้ำอีก 3 เดือน เพื่อยืนยันผลเลือดว่าปลอดภัย ขณะเดียวกันจะมีการให้ยาป้องกันการตั้งครรภ์(เด็กเยาวชนที่มีประจำเดือนแล้ว) เจาะเลือด ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม และได้รับการรักษาทันทีที่ห้องฉุกเฉิน ส่วนผลเลือดที่เจาะไป จะไปฟังผลที่ศูนย์พึ่งได้ หากผลกระทบทางจิตใจสูง จะดำเนินการส่งพบจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นทันที แต่ถ้าพบปัญหาทางนรีเวช เช่น ซิฟิลิส VDRL ตกขาวผิดปกติ หรือมีการติดเชื้อโพรงมดลูก ก็จะส่งพบแพทย์ด้านสูตินรีเวชทันทีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถเป็นหูเป็นตา เมื่อพบการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก หรือการล่วงละเมิดทางเพศแก่เด็กสามารถแจ้งสายด่วน 1300 หรือเพจเฟซบุ๊ก because we care เพราะเราใส่ใจ ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้เสียหายทุกคนจะได้รับการปกป้องสิทธิเสรีภาพ ปิดเป็นความลับ ไม่นำเผยแพร่เป็นข่าวให้ได้รับความอับอาย กระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจ จึงไม่ควรกลัวที่จะแจ้งเหตุ เพราะการแจ้งเหตุไม่ได้เป็นแค่การพิทักษ์เฉพาะเหยื่อเท่านั้น หากแต่เป็นการปกป้องผู้คนในสังคมจากอันตรายจากการก่อเหตุซ้ำของผู้กระทำผิดอีกด้วย
การล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าที่คนคนเดียวหรือกลุ่มคนเล็กๆ จะแก้ไขได้ การแก้ปัญหานี้ต้องเริ่มจากรับรู้และการตระหนัก ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกัน สิ่งที่ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ กำลังทำ คือ การเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เสียหายหลังจากที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ตามความสามารถที่มี แน่นอนว่าทีมงานทุกคนไม่อยากให้มีการใช้ตุ๊กตากับกรณีแบบนี้บ่อยๆ แต่ในเมื่อมีปัญหานี้เกิดขึ้น จึงต้องใช้ตุ๊กตาในขั้นตอนของการเยียวยา โดยทางศูนย์พึ่งได้ยังต้องการรับบริจาคตุ๊กตาที่ไม่ใช้แล้ว ย้ำว่าตุ๊กตาที่ไม่ใช้แล้ว เพราะไม่อยากใช้ของซื้อใหม่ที่เป็นการสิ้นเปลืองของประชาชน เพียงแค่นำตุ๊กตาเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาซักทำความสะอาดแล้วมาบริจาคที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลตำรวจ หรือติดต่อทางอินบ็อกซ์เพจเฟซบุ๊ก because we care เพราะเราใส่ใจ หรือโทรที่หมายเลข 0-2207-6802 เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์เยียวยาจิตใจเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ตุ๊กตาที่บางคนอาจมองว่าเป็นเพียงของเล่น แต่ใครจะรู้ว่าอีกด้านหนึ่งตุ๊กตาได้ถูกนำมาเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เหยื่อสามารถก้าวข้ามจนผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ ได้รับการเยียวยา ไม่ใช่เผชิญกับคำถามที่ตอกย้ำความรู้สึก เติมความบอบช้ำทำร้ายจิตใจ..!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง