ข่าว

ทีนิวส์​ประกาศ​จะตรวจสอบและเป็น​ "ศัตรู" กับ​​ "ธนาธร​-อนค."

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทีนิวส์​ ประกาศ​ จะตรวจสอบและเป็น​ "ศัตรู" กับ​​ "ธนาธร​ และพรรคอนาคตใหม่" ไปชั่วนิรันดร์​ ตราบใดที่ยังมีอุดมการณ์​ "ชังเจ้า"

 

              ประกาศว่าตัวเองเป็นคนกล้า​ ก็กล้าประกาศชัดๆไปเลยว่าคิดอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์​ อย่าแฝงพฤติกรรม​ “คนขลาด” เอาหลังพิง​ “เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่” โจมตีทีนิวส์

 

              กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ข้อความกล่าวหาสำนักข่าวทีนิวส์ว่าทำข่าวใส่ร้ายตนเองและพรรคอนาคตใหม่ ว่ามีความคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น โดยอ้างจากข้อความบนเฟสบุ๊คของผู้รายงานข่าวคนหนึ่งของสำนักข่าวทีนิวส์นั้น​โดยระบุว่าตนไม่ได้เขียนข่าวตามหลักเสรีภาพสื่อนั้น สำนักข่าวทีนิวส์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง​แล้วพบว่า​

              นายเอกชัย​ เรืองฉาย​ ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าว​ได้เข้ามาทำงานที่​สำนักข่าวทีนิวส์ตั้งแต่เดือน​สิงหาคม​ 2561​โดยก่อนหน้านี้ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน​ ในช่วงทดลองงาน​ 4​ เดือนแรกมีแนวโน้มที่จะไม่ผ่านทดลองงาน​ แต่สำนักข่าวทีนิวส์ยังให้โอกาสในการทำงานจนได้ผ่านทดลองงานในที่สุด​ และได้ทำงานมาจนถึงขณะนี้​ โดยผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวรับรู้รับทราบในอุดมการณ์และจุดยืนในการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวทีนิวส์เป็นอย่างดี​ โดยสำนักข่าวทีนิวส์ยืนยันหยัดในอุดมการณ์ในการหน้าที่ของสื่อ ในการนำเสนอข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมในการรายงานข่าว พร้อมกับความรับผิดชอบที่สื่อพึงมีต่อสถาบันหลักของชาติ​ในช่วงเวลาที่มีการแบ่งขั้ว​ เลือกข้างที่ชัดเจน​ระหว่าง​ฝ่ายที่มีความ​ “จงรักภักดี”​ กับฝ่ายที่มีอุดมการณ์​ “ชังเจ้า” โดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายที่ไม่หวังดีกับสถาบันฯที่สำนักข่าวทีนิวส์ได้ทำมาโดยตลอด

              ภายใต้จุดยืนและอุดมการณ์เช่นนี้​ สำนักข่าวทีนิวส์มีระบบ​ ระเบียบในการทำงานข่าว​ โดยจะมีการประชุมข่าวรวมและการประชุมข่าวย่อยในแต่ละกลุ่มข่าว​ โดยได้ให้เสรีภาพและอิสระผู้รายงานข่าวสามารถเสนอประเด็นข่าวที่ตนเห็นว่าสำคัญ​ โดยมี​ บรรณาธิการ หัวหน้าข่าว​ เพื่อนผู้ร่วมงานคนอื่นๆช่วยกันแตกประเด็น​ ขยายมุมมอง​ ข้อเท็จจริง​ ซึ่งผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวก็ได้ปฏิบัติตามแนวทางนี้เหมือนผู้รายงานข่าวคนอื่นๆ​ ทั้งนี้ทีนิวส์ไม่เคยนำเสนอข่าว​ตรวจสอบนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่และพรรคการเมืองอื่นๆโดยมิใช่ข้อเท็จจริง​ ซึ่งผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวก็ยอมรับในแนวทางปฏิบัติเช่นนี้​และร่วมทำงานกันด้วยดี​ ก่อนหน้าที่จะมีการฟ้องร้อง​ของพรรคอนาคตใหม่​ ซึ่งหากไม่เห็นด้วยกับทิศทางข่าวก็สามารถถอนตัวไม่ร่วมงานกับทีนิวส์ได้ตั้งแต่แรก​

              ในวันที่​ 4 มีนาคม​ 2562​ ได้มีรายงานข่าว​ข้อเขียนของ​ มจ.จุลเจิม​ เรื่องพรรคอนาคตใหม่​มีความคิด​ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์โดยผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวผ่านสื่อของสำนักข่าวทีนิวส์จริง​ โดยเป็นการนำเสนอประเด็นที่ไม่ได้นำเสนอผ่านที่ประชุมข่าวและผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวสมัครใจทำรายงานชิ้นนั้นเอง​ โดยได้รายงานต่อหัวหน้าเพื่อทราบ​เท่านั้น​ มิได้มีการบังคับแต่อย่างใด​ โดยปรากฏในเนื้อหาข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการนำเสนอข้อเขียนของม.จ.จุลเจิมล้วนๆโดยไม่ได้มีการวิเคราะห์​ หรือนำเสนอข้อมูลใดๆมากไปกว่านั้น

              ต่อมา​ใน​วันที่​ 6​ มีนาคม​ 2562​ พรรคอนาคตใหม่ได้ฟ้องร้อง​ มจ.จุลเจิม​ และสำนักข่าวทีนิวส์(เพียงสื่อเดียว)​ และสำนักข่าวทีนิวส์ได้ออกแถลงการณ์​ ยืนหนัดอุดมการณ์​ ยืนยัน​ “ธนาธร” เป็นอันตราย​ โดยยืนยันจะต่อสู้​กับพรรคอนาคตใหม่ในศาล​ โดยได้รับผิดชอบเรื่องการเป็นคดีความทั้งหมด​และ​ ยังได้ให้ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวทำหน้าที่ต่อโดยมิได้กล่าวโทษใดๆ​ ยังให้ปฏิบัติงานต่อ

              ผ่านล่วงเลยมา 16 วัน​ ใน​วันที่​ 22​ มีนาคม​ 2562​​ ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความระบุว่าเป็นการประกาสจุดยืนส่วนตัวผ่านเฟสบุคซึ่งนายธนาธรได้นำข้อความดังกล่าวไปขยายผล​ โดยมีการระบุว่า​ “จะมีการถอนฟ้องผู้รายงานข่าวคนดังกล่าว” (ซึ่งเป็นเพียงสัญญาว่า “จะ”)​ ในที่สุด

              ซึ่งก่อนหน้านั้น​ ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวได้เล่าให้เพื่อร่วมงานฟังว่า​ ตนได้ไปปรึกษากับเพื่อนที่รู้กฏหมายและเพื่อนได้ให้​ “คำแนะนำ” บางอย่าง​ จนนำไปสู่การโพสต์ข้อความของตนบนเฟสบุค​ และ​ การถอนฟ้องของนายธนาธร​ในเวลาต่อมา​ ซึ่งผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวได้​กล่าวภายหลังว่า​ “ตนรู้สึกดีใจที่จะได้รับการถอนฟ้อง​ แต่ตอนนี้ไม่ได้ดีใจแล้ว​” และ​ เมื่อถามว่านายธนาธรเอาไปโพส​ นายเอกชัยก็ตอบว่า​ “ผมเจออะไรอยู่​ คือผมตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของเขาด้วย”

              นายธนาธร​ได้กล่าวถึงการกระทำของ​ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวว่าเป็นความกล้า​ และเรียกร้องให้แสดงความกล้าออกมา​ แต่เราจะเรียกพฤติกรรมต่อไปนี้ว่าเป็นความกล้าได้หรือไม่​

              สำนักข่าวทีนิวส์ไม่เคยบังคับใครให้ต้องมีอุดมการณ์เหมือนกัน​ หรือกระทั่งถ้ามีอุดมการณ์ที่ตรงข้ามหากชัดเจน​ เราก็จะได้ร่วมต่อสู้กันด้วยความสง่างาม​ในฐานะ​ “ศัตรู” ที่มีเกียรติต่อกัน​ แต่คนที่ประกาศมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย​ อุดมการณ์เสรีนิยม​ แต่หากไร้ซึ่งอุดมการณ์แห่งความเป็นคน​ ​ คนที่ฉวยโอกาสใช้​ “คนอื่น” เป็นเครื่องมือ​ เป็น​ “เบี้ย” เป็น​ “หมาก” ที่จะหวังทำลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตน​ มิหนำซ้ำยังกล้าอ้างความสูงส่งของหลักการ​ ความดีงามต่างๆ​ เหล่านี้​หรือ​ที่เรียกว่าเป็น​ “ความกล้า”

              คนที่กล้า​ไม่มีใคร​ที่พูดปลิ้นปล้อน​ ซ่อนความ​ ถ้านายธนาธรมีความกล้าจริง​ ไม่มีความจำเป็นต้องไปเอาโพสต์ของ​ “เด็ก” ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่กลัวโดนฟ้องร้อง​มาโจมตีสำนักข่าวทีนิวส์​​ ไม่ต้องไปยุแยงให้ใครลุกขึ้นมา “กล้า​” เริ่มที่ตัวเองก่อน​

              กล้าพูดออกมาเลยว่าจะจงรักภักดี​

              กล้าพูดออกมาเลยว่าจะไม่สนับสนุนฝ่ายชังเจ้า​ ถ้านายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้มีความคิดความหวังที่จะล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครองจริง​ กล้าๆพูดออกมาเลย​

              หรือไม่ทั้งนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ก็กล้าประกาศรับรองคำพูดของนายปิยะบุตร​ เลขาฯพรรคที่ว่า​ “กษัตริย์มีพระราชดำรัสสดกับประชาชนไม่ได้​ สิ่งที่กษัตริย์จะตรัสต่อประชาชน​ ควรเป็นสิ่งที่ยกร่างโดยฝ่ายบริหาร” ให้ชัดเจนไปเลย

              และนายธนาธรไม่ต้องมาแสดงความเห็นอกเห็นใจ​ “สื่อ” ใดๆหรอก​ เพราะถ้าเราต่างเชื่อว่าต่างฝ่ายต่างมีอุดมการณ์และจุดยืน​ที่ชัดเจน​ และนายธนาธรไม่ล้มเลิกความคิดและการสนับสนุนฝ่าย​ “ชังเจ้า” ก็ขอให้เรามาเผชิญหน้าเป็นศัตรูกันในสมรภูมิแห่งความถูกต้อง​ มาเผชิญหน้ากันอย่างคนกล้า​ และทีนิวส์จะเป็น​ “ปีศาจ” ที่จะคอยตามตรวจสอบ​นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ให้ยิ่งกว่านี้เป็นทวีคูณ​ จนกว่ากาลจะสลาย​ แล้วสุดท้ายก็ให้ความดี​ ความจริง​มาชี้วัดว่าใครกันแน่ที่จะหยัดยืนอยู่

              สำนักข่าวทีนิวส์
              22​ มีนาคม​ 2562

 

 

 

 

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ