ข่าว

"ภท."โต้ "วิษณุ" นโยบาย "กัญชาเสรี" ทำได้จริง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศักดิ์สยาม" โต้ "วิษณุ" ยันนโยบาย "กัญชาเสรี" ทำได้จริงศึกษามาแล้ว ทำให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เหลือ 5% ขณะที่นโยบายแบ่งปันกำไรสินค้าเกษตรไม่ทำคนไทยกินข้าวแพง

           ที่พรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย(ภท.), นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค และ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค แถลงข่าวชี้แจงนโยบายกำไรแบ่งปันสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าว ที่มีการตั้งข้อสังเกตจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ว่าอาจทำให้ข้าวสารมีราคาแพง และนโยบายกัญชาเสรี ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่านโยบายดังกล่าวทำไม่ง่าย ว่า ขอยืนยันว่านโยบายต่างๆของพรรคภท.ทั้ง 12 ด้าน ผ่านการศึกษาและวิจัยตามหลักวิชาการ

          "ยกตัวอย่างเรื่องข้าว ที่ยืนยันว่าจะไม่ทำให้ราคาข้าวสารแพงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการควบคุมราคาข้าวสาร และตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 พ.ศ.2562 ได้จัดให้ข้าวอยู่ในสินค้าควบคุม นอกจากนี้ ระบบข้าวกำไรแบ่งปันของพรรคภท.ยังใช้รูปแบบเดียวกับกฎหมายอ้อยและน้ำตาลที่ดำเนินการมาแล้ว 35 ปี ทำให้ชาวไร่อ้อยได้กำไรถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่โรงงานและผู้ส่งออกน้ำตาลได้กำไรจากส่วนแบ่ง 30 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น หากนำแนวทางของอ้อยและน้ำตาลมาใช้กับข้าว ชาวนาจะมีรายได้เพิ่มขึ้นแน่นอน โดยชาวนาจะได้ส่วนแบ่ง 75% โรงสี 10% และผู้ค้าข้าวได้ 15%"

        นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ส่วนนโยบายกัญชาเสรีนั้น เดิมกัญชาไม่ได้ถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษและมีขายตามร้านขายยา แต่ต่อมาปีพ.ศ. 2522 รัฐบาลได้กำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งเสพติด กระทั่งปัจจุบัน รัฐบาลได้แก้ไขกฎหมายให้กัญชาสามารถใช้ทางการแพทย์และการพาณิชย์ แต่พรรคภท.เห็นว่ายังไม่สมบูรณ์ โดยเราได้ศึกษาต้นแบบที่ประสบความสำเร็จจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบด้วยการใช้กัญชาเพื่อ 3 วัตถุประสงค์ คือ 1.เพื่อการแพทย์ 2.เพื่อการพาณิชย์ และ 3.ประชาชนสามารถปลูกได้ 6 ต้น/ครอบครัว ซึ่งพรรคภท.ได้นำโมเดลดังกล่าวมาทำเป็นนโยบาย พร้อมเสนอเป็นร่างกฎหมาย โดยเสริมเรื่องที่ 4 คือแพทย์แผนไทย ดังนั้น หากพรรคภท.เป็นรัฐบาล จะแก้กฎหมายและผลักดันทั้ง 4 แนวทางให้เป็นความจริง ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ประเทศปีละประมาณ 303,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ จะนำเงิน 100,000 ล้านบาท ไปผลักดันนโยบายอีก 11 ด้านของพรรค โดยไม่ต้องกู้เงิน ไม่ต้องขึ้นภาษี หรือขายพันธบัตร ส่วนเงินอีก 200,000 ล้านบาท จะนำไปลดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)จาก 7 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการลดรายจ่ายของประชาชน และทำให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้มากขึ้น

         นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนข้อกังวลของนายวิษณุที่ระบุว่ากัญชาบางสายพันธุ์ เป็นโทษมากกว่าเป็นคุณนั้น ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสรรหาสายพันธุ์ที่ดีและมีราคามาให้ประชาชนเพาะปลูก เช่นเดียวกับการหาพันธุ์ข้าวที่รัฐบาลต้องควบคุม ไม่ใช่การต้มแกงไก่ที่จะใช้สายพันธุ์อะไรก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากพรรคภท.ไม่ได้เข้าไปแก้ไขกฎหมายยาเสพติดให้โทษที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ให้ความเห็นชอบและมีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้ ก็จะส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตยามีโอกาสครอบงำและผูกขาดธุรกิจกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ประชาชนจะเสียโอกาสในการสร้างรายได้ด้วยการปลูกกัญชาครอบครัวละ 6 ต้น รวมทั้งยังต้องเสี่ยงซื้อยาที่มีราคาแพง เช่น น้ำมันแคนนาบิไดออล (CBD Oil) ที่สกัดจากพืชกัญชา ซึ่งมีราคาแคปซูลละ 3,000 บาท และตนเชื่อว่านายทุนเหล่านั้นจะไม่ลดราคาให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายอย่างแน่นอน

         เมื่อถามถึงโอกาสในการผลักดันนโยบายกัญชาเสรีให้เป็นผลสำเร็จ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หากประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี ขอให้เลือกพรรคภท.กันมากๆในวันที่ 24 มีนาคมนี้ หากพรรคภท.เป็นแกนนำรัฐบาล ก็สามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากใครจะดึงเราไปร่วมรัฐบาล ก็ต้องรับนโยบายทั้ง 12 ด้านไปปฏิบัติ แต่หากไม่รับ เราก็ไม่ร่วม และขอยืนยันว่า หากเราทำนโยบายกัญชาเสรีได้จริง ประชาชนจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่ลดลง เหลือ 5 เปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน

         เมื่อถามว่า จากผลโพลหลายสำนัก พบว่าพรรคภท.และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ไม่ติดอยู่ในอันดับความนิยม นายศักดิ์สยามกล่าวว่า สำนักโพลมีหลายสำนัก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีที่เราจะได้ทำงานให้หนักขึ้น และอยากให้ดูวันที่ 24 มีนาคม ว่าสุดท้ายผลจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่ระบุว่านายอนุทินไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา นายอนุทินเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนและกล่าวปราศรัยในเวทีต่างๆ ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

        ด้าน พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ใกล้ถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคมเข้ามาทุกขณะ สถานการณ์การเมืองก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้น ที่ผ่านมา เราจะเห็นการใช้เกมใต้ดินต่างๆ ในทางการเมืองเข้ามาทำลายล้างกัน ไม่ว่าจะเป็นการใส่ร้าย ให้ข่าวโจมตี หรือการทำลายป้ายหาเสียง พรรคภท.เองก็มีผู้สมัครที่ถูกกระทำอย่างนั้นด้วย ซึ่งเราเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นพลวัตทางการเมือง จึงไม่ได้มีการโต้ตอบอะไรออกไป อีกทั้งนายอนุทินได้ให้นโยบายไว้ชัดเจนว่าเราทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่ตอบโต้ทำลายกันทางการเมือง

         พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ช่วงใกล้เลือกตั้งที่เหลือเวลาอีก 31 วันนั้น หัวหน้าพรรคได้กำชับให้ลูกพรรคทุกคนเร่งลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรค และแนะนำผู้สมัครให้ประชาชนในพื้นที่ได้รู้จักมากที่สุด ซึ่งการให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับผู้สมัคร และนโยบายของพรรค จะเป็นส่วนช่วยให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจลงคะแนนให้กับผู้สมัครของเราได้ นอกจากนี้ นายอนุทินยังได้ขอความร่วมมือไปยังลูกพรรคทุกคนให้ใช้ตรา(Logo) ของพรรคภท. นำมาเป็นภาพโปรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม เพื่อให้ประชาชนจดจำพรรคภท.ได้ และสื่อให้เห็นว่าพรรคภท.อยู่กับประชาชนในทุกที่

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ