พรรคการเมืองหาเสียงต้องอยู่ในกรอบยุทธศาสตร์ชาติ

          วันที่ 18 ก.พ.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. ถึงการใช้จ่ายงบประมาณ ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ให้ออกมาให้ได้ ในส่วนของการหาเสียงเป็นเรื่องของอนาคตที่เขาจะให้โน่นให้นี่ไปว่ากันมา วันหน้าถึงเวลาเขาหาเสียงมาแล้ว สมมติว่าได้เข้ามา ก็มีปัญหาในการใช้จ่ายงบประมาณข้างใน ต้องมาผ่าน พ.ร.บ.การเงินการคลัง ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ มันทำได้ ไม่ได้แค่ไหน ก็ต้องมาดีเบตกันอยู่ในครม. ในสภา ไม่ได้ให้ทั้งหมด ถ้ารวมแล้วเงินมหาศาลจะเอาเงินจากที่ไหน เราก็ยังหาเงินได้เท่านี้ เข้าใจหรือยัง ฝากพี่น้องประชาชนช่วยคิดด้วย ทุกพรรคอาจจะมีความหวังดี แต่ความจะเป็นไปได้หรือไม่ได้อยู่ที่ครม. อยู่ที่สภา เป็นผู้อนุมัติแผนงานโครงการดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งตรงนี้เราได้ทำยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทไปแล้ว ต้องอยู่ในกรอบทั้งหมด ไม่เกินวงเงินงบประมาณที่เรามีอยู่ ไม่เสียเรื่องระบบการเงินการคลัง

          นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ถ้าฟังฝ่ายเศรษฐกิจ เขาสรุปมาว่าเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น แต่ดีขึ้นหลายคนอาจจะมองว่าเศรษฐกิจระดับบนใช่ไหม ตัวเลขเศรษฐกิจไทยขยายตัว 4.1 เปอร์เซ็นต์ที่ว่า ตนเคยบอกแล้วมันมีส่วนรวมอยู่ในนั้นเยอะ คนเกือบครึ่งประเทศที่เป็นลูกจ้าง เป็นแรงงาน เป็นต้นทุนการผลิต เขาก็ได้ตรงนั้นไป แต่คนที่ไม่เข้าสู่ตรงนั้นต้องไปดูห่วงโซ่ว่าจะทำอย่างไร ถึงต้องไปพิจารณา อย่างการตั้งสถาบันคุณธรรม สถาบันชุมชนต่างๆ ขึ้นมาเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเขา ถ้าไม่ทำตรงนี้ก็เหมือนเดิม แก้อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าไปฟังบอกจะทำให้ดีขึ้นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่วิธีทำไม่มี แล้วจะทำอย่างไร สิ่งที่เราทำมา 4-5 ปีก็ทำได้ระดับหนึ่ง มันมีหลายระดับจะทำอย่างไรให้พอเพียงและดีขึ้น.