ข่าว

กรณ์ ต้าน! โรงเรียนนานาชาติเข้าตลาดหุ้นจี้คลังทบทวนอุ้มภาษี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตลาดหุ้นกำลังจะมีหุ้นน้องใหม่เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ย.2561)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อว่า Korn Chatikavanij โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโรงเรียนอินเตอร์เข้าตลาดหุ้น ความว่า

"พรุ่งนี้ตลาดหุ้นเราจะมีหุ้นน้องใหม่เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ โรงเรียนนี้ชื่อ Singapore International School Bangkok (SISB) เป็นการร่วมทุนระหว่างไทย/สิงคโปร์ และมีกำไร ประมาณปีละ 60-80 ล้านบาท

 

 

 

งานนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายในความเหมาะสมในการนำสถานศึกษาเข้าระดมทุนด้วยวิธีนี้ และมีการเปรียบเทียบทางด้านความเหมาะสมกับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยโรงพยาบาล

โดยรวมผมไม่สบายใจกับการเข้าตลาดหุ้นโดยโรงเรียนนานาชาติในกรณีนี้ ผมขอลำดับความคิดตามนี้ครับ

1. ผมรับได้กับการแสวงหากำไรพอประมาณโดยโรงเรียนเอกชน กำไรทำให้เกิดการลงทุน และตราบใดที่มีการแข่งขัน ผู้ปกครองจะมีทางเลือกและกลไกตลาดจะทำงานในการกำกับราคาและคุณภาพให้เป็นธรรม
2. แต่ความจริงคือโรงเรียนเอกชนได้รับการยกเว้นภาระการเสียภาษีกำไร (ภาษีนิติบุคคล) ด้วยเหตุผลว่ารัฐบาลต้องการสนับสนุนการลงทุนโดยเอกชนในกิจการการศึกษา
3. ตามตรรกะการให้สิทธิพิเศษทางภาษีเพื่อให้มีการลงทุน รัฐควรมีเงื่อนไขในการจำกัดสัดส่วนของกำไรที่นำมาจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เพื่อให้มีการนำกำไรส่วนใหญ่กลับไปใช้ในการลงทุนในโรงเรียนเพิ่มเติม และในกรณีที่มีการขายหุ้น ผู้ถือหุ้นควรต้องเสียภาษีกำไร (capital gains) ตามปกติ
4. หากผู้ถือหุ้นต้องการนำโรงเรียนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รัฐควรยกเลิกสิทธิพิเศษทางด้านภาษีของโรงเรียนนั้นๆ เพราะหลักสำคัญของการเป็นบริษัทในตลาดหุ้นคือการทำกำไรสูงสุดให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่น่าจะตรงกับวัตถุประสงค์การสนับสนุนโรงเรียนเอกชนของรัฐ

5. ในกรณีโรงพยาบาลเอกชนเราเห็นปัญหาค่ายาและค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการกำกับดูแลให้เป็นธรรม แต่ความต่างคือโรงพยาบาลไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี และโรงพยาบาลอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องหาแหล่งทุนมากกว่าโรงเรียน เพราะต้องลงทุนในอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีต้นทุนสูงอย่างต่อเนื่อง 
6. หน้าที่หลักของรัฐคือการยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนรัฐ เพื่อไม่ให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเสียเปรียบผู้มีฐานะที่สามารถส่งลูกหลานเข้าเรียนโรงเรียนเอกชน (และโดยเฉพาะโรงเรียนอินเตอร์) ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วเราจะเห็นว่าโรงเรียนรัฐไม่ได้ด้อยคุณภาพกว่าโรงเรียนเอกชน 
7. หากรัฐสนับสนุนโรงเรียนเอกชนด้วยการยกเว้นภาษี แต่ไม่เอาจริงกับการยกระดับมาตรฐานโรงเรียนรัฐ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องคือการขยายช่องว่างความเหลื่อมลํ้าทางโอกาสระหว่างคนไทยที่มีฐานะต่างกัน

 

โดยทั่วไปการเข้าตลาดหุ้นทำให้มีแรงกดดันให้บริษัทต้องเร่งทำกำไร ซึ่งจะผิดวัตถุประสงค์การสนับสนุนทางภาษีโดยรัฐ และการเข้าตลาดหุ้นจะทำให้ผู้ถือหุ้นมีสิทธิขายหุ้นได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งในกรณีนี้มีการกำหนดราคาหุ้นไว้กว่า 50 เท่าเงินกำไรที่ปลอดภาษี ประเด็นเหล่านี้กระทรวงการคลังควรต้องพิจารณาครับ"

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ