ไทยไม่หวั่นกฎหมายอียูฉบับใหม่

          เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 61 - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) จะบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองของมูลส่วนบุคคลของพลเมืองยุโรป (จีดีพีอาร์) ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับธุรกิจที่มีพนักงานเป็นชาวยุโรปหรือทำธุรกรรมกับประเทศในยุโรป เพราะหากข้อมูลรั่วไหล จะมีโทษหนัก นั้น

          นายวิษณุ กล่าวว่า ทางไทยอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบมากเกินไป รวมทั้งรัฐบาลไทยได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นมา เพื่อลดผลกระทบบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายใหม่ของอียู ซึ่งมีการเขียนให้ชัดในร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ฉะนั้นถ้าจะส่งผลอะไรกับคนไทย เป็นผลกระทบที่เกิดจากกฎหมายของไทย ไม่ได้เกิดจากกฎหมายของอียู

          เมื่อถามว่าโทษปรับของกฎหมายใหม่ของอียูค่อนข้างหนัก สูงสุดปรับถึง 20 ล้านยูโร หากข้อมูลของคนยุโรปรั่วไหล นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ 20 ล้านยูโร แต่กฎหมายของไทยไม่ได้เขียนโทษหนักขนาดนั้น เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลไทย ใช้กฎหมายไทย

          ต่อข้อถามว่าประเทศไทยอาจจะเสี่ยงถูกขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็คลิสต์ในการทำการค้ากับอียู หากข้อมูลชาวยุโรปรั่วไหลจากไทย แต่เขาบังคับใช้กฎหมายกับเราไม่ได้ นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะเรากำหนดมาตรการควบคุมเอาไว้แล้ว แปลว่าเราใช้กฎหมายไทย เราไม่ได้นำกฎหมายต่างชาติของอียูมาใช้.