ยังไม่คลอด 3 มาตรการอุ้มทีวีดิจิทัล

              24 เม.ย.61 - เมื่อเวลา 14:15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการประชุมคสช.เมื่อช่วงเช้าเพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและโทรคมนาคมว่า มีการหารือว่าจะมีมาตรการใดที่เหมาะสม ต้องดูบริบททั้งหมด รัฐบาลยืนยันประเทศต้องไม่เสียประโยชน์ ต้องมีทางแก้ไข รัฐบาลจะหาทางออกให้ดีที่สุด อยู่ในขั้นตอนทั้งหมด ซึ่งยังไม่ออก ม.44 วันนี้ แต่จะได้ข้อชัดเจนเร็วที่สุด

              อย่างไรก็ตาม ต่อมา เวลาประมาณ 15:20 น.  พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กบ่าวถึงผลการประชุม คสช. ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุบแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 3 แนวทางด้วยกัน ประกอบด้วย 1.ให้พักชำระหนี้ได้ 3 งวด ในเดือน พ.ค. 61-63 เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน แต่ระหว่างพักชำระหนี้นั้น จะต้องจ่ายดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% 2. กสทช. ช่วยจ่ายค่าเช่า โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (ค่ามักซ์) เป็นเวลา 2 ปี และ3.อนุญาติให้โอนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลได้ โดยมาตรการทั้ง 3 นี้ เป็นข้อสรุปจากที่ประชุม คสช. ที่ตอบโจทย์การช่วยเหลือได้ตามความจำเป็น และรัฐบาลไม่เสียหาย คาดว่าจะออกเป็นคำสั่ง คสช. ในเร็วๆนี้ สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการโทรคมนาคม ยังอยู่ในระหว่างหารือ

 

          แต่หลังสุด เมื่อ เวลา 17.30 น. พล.ท.สรรเสริญ กล่าวชี้แจงภายหลังอีกครั้งว่า การประชุม คสช. เมื่อช่วงเช้า เป็นเพียงการรับทราบหลักการเบื้องต้น ในการพิจารณาออกมาตรการการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยหัวหน้า คสช. อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกลับไปพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง ว่าต้องเพิ่มเติมประเด็นใดหรือไม่ ก่อนมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร่างเป็น มาตรา 44 ก่อนนำใาเสนอหัวหน้า คสช. อีกครั้ง

 

คสช. จ่อคลอดมาตรการ อุ้มทีวีดิจิทัล พักชำระหนี้ 3 ปี - โอนใบอนุญาต ได้

         แต่ล่าสุด พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุม คณะรัฏาาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าที่ประชุม คสช. ได้พิจารณาแนวทางความช่วยเหลือกิจการโทรทัศน์ดิจิทัล จากกรณีที่มีผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 13 บริษัท จาก 22 บริษัท ส่งหนังสือร้องเรียนมายัง คสช. และ กสทช. เพื่อขอให้ออกมาตรการความช่วยเหลือจากการประกอบกิจการ ประกอบด้วย โดยประกอบด้วย บางกอกมีเดีย, ไทยรัฐทีวี, อัมรินทร์ ทีวี, จีเอ็มเอ็มแกรมมี่, เนชั่นทีวี, วอยซ์ทีวี, เดลินิวส์, ทีเอ็นเอ็น 24 และ สปริงนิวส์ จำนวน 13 บริษัท ขณะที่ บีบีอีซี 3 ช่อง, อสทม. 2 ช่อง ,อาร์เอส ,โมโน ,ช่อง 7 และเวิคพอยท์ ไม่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งการชำระค่างวดที่เหลือ 5 งวด เป็นมาตรการให้ขยายเวลาชำระก่อนหน้านี้ คือปี 2561 - 2565 เพื่อให้มีสภาพคล่องต่อการทำธุรกิจ  แต่ 2561 ผู้ประกอบการยังประสบปัญหาไม่มีงบประมาณ 

 

            พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ที่ประชุม คสช. ได้สรุปแนวทางเป็นมาตรการความช่วยเหลือเบื้องต้น 3 แนวทาง ประกอบด้วย ดังนี้ 1. อนุญาตให้พักการชำระค่างวดได้  3 งวด จาก 5 งวดที่เหลือ ในปี 2561-2565 แต่จะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 1.5 ในระหว่างพักการชำระหนี้ 2.กรณีการเช่าโครงข่ายจากระบบอนาล็อคเป็นดิจิทัล นั้น ที่ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ 3 ราย ประกอบด้วย ไทยทีพีบีเอส อสมท. และ ช่อง 5  โดย กสทช. จะให้การช่วยเหลือ คือ จ่ายเงินให้ครึ่งหนึ่ง เป็นระยะเวลา 2 ปี และ3.อนุญาตให้สามารถโอนใบอนุญาตต่อได้ โดยมาตรการช่วยเหลือเหล่านี้จะมีการออกเป็นคำสั่ง คสช. ต่อไป