ผลสอบทหาร สรุป "น้องเมย" ไม่ถูกทำร้าย หัวใจล้มเหลวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงษ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย ได้แถลงข่าวถึงผลการสอบสอบ   โดย พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง ประธานกรรมการฯได้แถลงว่า การแถลงครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตอบโต้ใคร  โดยการสอบครั้งนี้  พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวว่า  ได้สอบผู้เกี่ยวข้องจำนวน  42 คน   มีทั้ง นักเรียนเตรียมทหารทั้งปี 3 และ ปี 1  แพทย์ทั้งจากกองแพทย์  แพทย์จากโรงพยาบาลโรงเรียนนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และแพทย์จากศูนย์การแพทย์พระมงกุฏเกล้าญ รวมถึงนายทหารปกครอง  อาจารย์พละศึกษา 

    ทั้งนี้ผู้ให้ปากคำให้ปากคำด้วยความสมัครใจ สรุปผลดังนี้

 

    เหตุการณ์ที่ 1. วันที่เสียชีวิต (17 ต.ค.)  วันดังกล่าว นตท.ภคพงษ์ พักรักษาตัวที่กองแพทย์ มีเพื่อนพักฟื้นร่วมอีก 7 คน  ในเวลา 09.15 คน นตท.ภคพงษ์ ได้เดินออกไปกับเพื่อนเพื่อกลับไปเอาของใช้ส่วนตัว และเดินไปสองคนจากวงจรปิด  มือถือตะกร้าผ้า   ขากลับกลับมาคนเดียว เพราะเพื่อนคิดว่ากลับไปแล้วจึงไม่ได้รอ

    10.23 น.  พบ นตท.ภคพงษ์ วิ่งช้าๆมาทางกองแพทย์ และเป็นลม มีอาการคล้ายไฮเปอร์เวนทูเลชั่น   โดยเพื่อน นตท. อีกคนทราบเพราะเคยมีอาการนี้เช่นกัน      จึงพากลับไปรักษาจนอาการเป็นปกติ

    12.00 น. พบว่านตท. ภคพงษ์ ไปทานอาหารตามปกติ   12.40 ผบ.กองพันที่ 2 ไปเยี่ยม และให้ นตท.ภคพงษ์ โทรศัพท์คุยกับแม่   

     มีการคุยโทรศัพท์สาธารณะกับผุ้ปกครอง ภาพวงจรปิด  โดยมีการใช้มือขวากุมอกด้านซ้าย และไปนอนกับเพื่อนที่ป่วย    มีข้อสังเกตุว่าวันที่ 17 นตท.ภคพงษ์มีอาการเซ การเดินกุมหน้าอกด้านซ้ายบ่อย

    นตท.ภคพงษ์ ปรับทุกข์กับเพื่อนบ่อยครั้งว่าเครียดสูง 

    15.10 น.  จนท.กองแพทย์ นำโทรศัพท์ให้ นตท.ภคพงษ์โทรหาคุณพ่อและนำโทรศัพท์มาให้ แต่ก่อนจะได้รับโทรศัพท์ก็ได้เซและล้มลง ในลักษณะไฮเปอร์ที่รุนแรง มีการพ่นน้ำลายมาเป็นระยะ โดยเจ้าหน้าที่ก็แพทย์ก็เห็นและตามแทพทย์มารักษา  เมื่อไม่ดีจึงนำส่ง รพ. โรงเรียนนักเรียนนายรอยฯ       จากนั้นก็ได้ส่งโรงพยาบาล  แพทย์ได้ทำCPR แต่อาการไม่ดีขึ้น
ระหว่าสงทำซีพีอาร์ ได้แจ้งผู้ปกครอง และผู้ปกครองให้ทำซีพีอาร์จนกว่าผู้ปกครองจะมาถึง   จนมาถึงเมื่อ 19.30 น. รวมเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงที่ทำ CPR และใช้ จนท. เกือ20 คน

    เวลา 20.020 น. จึงหยุดทำ CPR  และลงมติว่าเสียชีวิต จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และให้จนท. ส่งสถาบันพยาธิวิทยา รพ.พระมงกุฏฯ  จากนั้นเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนการชันสูตร

    "จากการสอบสวนไม่ปรากฏว่าตลอดทั้งวัน วันที่ 17  ต.ค.   นตท.ภคพงษ์ไม่ถูกผู้ใดสั่งลงโทษหรือถูกทำร้ายร่างราย  โดยเฉพาะช่วงบ่าย เขาสามารถพูดและเดินได้ตามปกติเว้นแต่เครียดสูง  และหลังจากพูดคุยกับผู้ปกครองได้หมดสติไปเอง"

    "17ต.ค. ทั้งวัน ไม่มีผู้ใดลงโทษจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต" พล.อ.อ.ชวรัตน์กล่าว

    ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เรื่องการฟกช้ำ  จากการสอบผู้เกี่ยวข้อง   วันที่ 10 ต.ค.  เวลา 15.51 น. นตท. ภคพงษ์ เรียนพละเสร็จ  กล้องวงจนปิดพบว่าวิ่งไปเพียงลำพังและตกบันไดที่สูง 8 ขั้น  และมีครูพละได้เดินมาดู โดยนอนตะแคงซ้ายมือกุมหน้าอก  และจากการตรวจ พบว่าจุกบริเวณหน้าอก  และใช้รถส่งกองแพทย์ ภายนอกไม่พบบาดแผล และส่ง รพ. ผลการตรวจสอบไม่พบบาดแผล ไม่พบการบาดเจ็บภายใ   ต่อมาวันที่ 12 ต.ค. นตท.ภคพงษ์กลับมาพักที่บ้าน และนำไปตรวจซ้ำที่ รพ.เอกชน ผลการตรวจไม่มีสิ่งผิดปกติ 

    จากผู้เกี่ยวข้อง พบว่าตกบันไดด้วยตนเองเพราะเร่งรีบกลับกองพัน โดยไม่พบบาดแผล  มีการตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติทั้งจาก โรงพยายาลโรงเรียนนักเรียนนายร้อยและโรงพยาบาลเอกชน

    "คณะกรรมการสรุปได้ว่า ไม่มีผู้ใดสั่งลงโทษหรือทำร้ายอันอาจเป็นเหตุให้เสียชีวิต  และจากการตรวจ สรุปในภาพรวมได้ว่าไม่พบรอบฟกช้ำภายนอก ส่วนซี่โครงที่หักก็ไม่ตัดประเด็นการทำซีพีอาร์และพบกล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนผิดปกติ แพทย์สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลว เฉียบพลัน"

 

ทั้งนี้ในการแถลงได้มีการนำภาพวงจรปิดมาแสดงประกอบด้วย 

---------