ข่าว

ปภ.12 สั่งเฝ้าระวังอุทกภัย จ.สตูล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา สั่งเฝ้าระวังอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม จ.สตูล เป็นพิเศษ

 

               หลังจากที่มีประกาศเตือนให้หลายจังหวัดในภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลากพื้นที่เสี่ยง ล่าสุด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัด (สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ได้เตรียมพร้อมในเรื่องนี้

               ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว” ว่า สำหรับพื้นที่ 5 จังหวัด ในความรับผิดชอบ พื้นที่ๆ จะต้องเฝ้าระหว่างอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ คือ จังหวัดสตูล เนื่องจากเป็นพื้นที่จังหวัดอันดามันที่อยู่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่จะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง

               ประกอบกับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดสตูลได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ รวม 7 อำเภอ 28 ตำบล 127 หมู่บ้าน และเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ชุมชนหมู่ที่ 7 ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล มอบถุงยังชีพ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแก่พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลตำบลคลองขุด

               พร้อมกับมอบเรือท้องแบนให้ อ.มืองสตูล ควนโดน ท่าแพ จำนวน 8 ลำ  โดยวันนี้ (18 ส.ค.) พื้นที่ซึ่งยังมีน้ำท่วมขัง 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองสตูล ละงู และ อ.ควนโดน  สถานการณ์เกือบจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หากไม่มีฝนตกหนักลงมาซ้ำในพื้นที่อีก

               “สำหรับพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งได้รับกระทบจากอุทกภัยเกิดน้ำท่วมขัง หลังฝนตกสะสม เนื่องจากจากน้ำระบายไม่ทันนั้น ขณะนี้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำไปประจำบนเกาะตลอดช่วงฤดูฝนปีนี้ ซึ่งคิดว่าจะเพียงพอสำหรับการรับมือกับปริมาณน้ำฝนและน้ำท่วมขังในปีนี้ได้อย่างแน่นอน”

               ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา กล่าวและว่า นอกเหนือจากจังหวัดสตูลที่เป็นพื้นที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้ จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่รับผิดชอบก็ให้ทาง ปภ.จังหวัด ทุกจังหวัดมีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และกำลังเจ้าหน้าที่ สำหรับการเข้าพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างรวดเร็วหากมีการร้องขอทันที

               จึงอยากให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เฝ้าติดตามข่าวสารทางราชการ ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเตรียมรับมือกับสาธารณภัยที่จะเกิดขึ้น เพราะพี่น้องประชาชนจะทราบดีว่าพื้นที่ไหนที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดเหตุซ้ำซาก ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมากกว่าเจ้าหน้าที่

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ