ข่าว

ป.ป.ท.จี้คดีถมดินปิดทางสาธารณะที่สตูลไม่คืบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลขาฯ ป.ป.ท.ลงพื้นที่ ทม.สตูล จี้ คดีถมดินปิดทางสาธารณะไม่คืบ เตรียมดาบสองเสนอ ป.ป.ช. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ชงดีเอสไอจัดการ 


               25 พ.ค. 60  เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ถนนประชาอุทิศ เขตเทศบาลเมืองสตูล อ.เมือง จ.สตูล  นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขตพื้นที่ 9 สงขลา พร้อมด้วย สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 (สงขลา) , สำนักงาน ป.ป.ช.ประจังหวัดหวัดสตูล และทหาร เดินทางไปดูพื้นที่ๆ มีการนำดินมาถมปิดทางเข้าถนนประชาอุทิศ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร กว้าง 8 เมตร  ซึ่งทางตัวแทนชาวบ้าน ม.3 ต.คลองขุด อ.เมือง 70 ครอบครัว (ประมาณ 300 คน) ได้ร้องต่อศาลปกครองจังหวัดสงขลาให้เอกชนเปิดทางเมื่อเดือนกันยายน 2559

               จนถึงวันนี้พบว่า เอกชนที่ครอบครองมีการนำดินมาถมเพิ่มจากเดิมที่มีเพียงจุดเดียว สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ต้องใช้ถนนเส้นนี้สัญจร เนื่องจากเป็นถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้สัญจรมากว่า 30 ปี ทำให้วันนี้ทางเลขาฯ ป.ป.ท. ลงมาดูพื้นที่จริง

               นายประยงค์ กล่าวว่า จากสภาพพื้นที่พบว่านอกเหนือจากไม่มีการดำเนินการเปิดทางแล้ว ยังมีการนำดินมาถมเพิ่มจากเดิมจำนวนมาก เกือบตลอดเส้นทาง แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้แก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน แม้ว่าทางศาลปกครองจังหวัดสงขลาได้ชี้ว่าเป็นถนนสาธารณะมาตั้งแต่อดีต จึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

               พ.ต.ท.สามารถ กล่าวว่า ขั้นตอนการดำเนินการหลังจากที่ท่านเลขาฯ ป.ป.ท.เดินทางมาเห็นกับตาแล้ว อันแรกก็คือ ต้องถามพนักงานสอบสวนว่ามีการดำเนินการตามหน้าที่หรือไม่ หลังจากที่เราได้แจ้งไปแล้ว เมื่อเราพบการกระทำความผิดฐานปิดกั้นทางสาธารณะ

               เพราะเมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ส่วนเมื่อได้ตัวมาแล้วจะผิดจะถูกอย่างไรก็ว่ากันในกระบวนการยุติธรรม แต่ปรากฏว่า ณ เวลานับตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 เป็นต้นมา ยังไม่ดำเนินคดีใดๆ เลย

               ซึ่งเราก็ต้องไปดูว่าท่านล่าช้าหรือว่าท่านจงใจไม่ดำเนินคดี ถ้าหากว่าการดำเนินการล่าช้าก็เป็นเรื่องของหน่วยงานต้นสังกัดที่จะต้องดำเนินการสอบสวนทางวินัย แต่ถ้าหากพบว่าเป็นการไม่ดำเนินการเลยคือ ละเว้น ก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องมีความผิด เราก็ต้องแจ้งความกล่าวหากับ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน

               ประการที่สอง ถนนเส้นนี้เป็นทางสาธารณะตามคำพิพากษาของศาลปกครองสงขลา หน้าที่ๆ จะต้องดูแลเกี่ยวข้องก็ตกเป็นหน้าที่ของนายอำเภอแล้วก็นายกเทศมนตรีเมืองสตูล เพราะว่าตรงนี้เป็นทางสาธารณะตามคำพิพากษาของศาลปกครองสงขลา

               โดยหน้าที่ของนายอำเภอและนายกเทศมนตรีเมืองสตูลก็เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.การปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 ท่านจะต้องมีหน้าที่ในการกำกับดูแลทางสาธารณะ ตรงนี้ท่านได้ดำเนินการหรือไม่ ถ้าไม่ดำเนินการก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องชงให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ เนื่องจากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

               ส่วนเอกชนหรือผู้ที่นำดินมาถมปิดกั้นทางสาธารณะนั้นมีความผิดทางอาญาอยู่แล้ว เมื่อพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการ อันนี้ผมก็ได้นำเรียนกับเลขาฯ ป.ป.ท. ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ที่ท่านลงมาตรวจพื้นที่ด้วยตัวเอง หากประชาชนไม่ไว้วางใจการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะมีอีกทางหนึ่งก็คือ เสนอให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพื่อให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามารับผิดชอบสอบสวนดำเนินการต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ