นครพนมจับเฮโรอีนมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

               22 พ.ค. 60  เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ กอง บก.ร้อย ตชด.236 อ.เมือง จ.นครพนม  พ.ต.ท.ชนทัต เทียมนาก รักษาราชการ ผบ.ร้อย 236 ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ แสงสา รอง ผบ.ร้อยฯ และ ร.ท.ประวิทย์ อุ่นกระโทก ผู้บังคับกองร้อยทหารราบกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันแถลงข่าวว่า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว จะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จึงร่วมกันวางแผนเพื่อทำการจับกุม โดยวางกำลังดักซุ่มตามบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาคอกควาย ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ดักซุ่มตามท่าน้ำที่คาดว่าจะมีการนำยาเสพติดขึ้นฝั่ง

 

 

               จนกระทั่งเวลา 03.00 น. มีรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 100 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับขี่ซ้อนท้ายมาด้วยกัน 2 คน มุ่งหน้าตรงไปยังริมฝั่งแม่น้ำโขงอย่างรีบร้อน แล้ววิ่งลงไปริมฝั่งแม่น้ำโขง สักครู่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้วิ่งกลับขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงส่องไฟฉายแสดงตัวให้สัญญาณหยุดรถ แต่จักรยานยนต์คันดังกล่าว ได้ทิ้งสิ่งของลงข้างทาง แล้วพยายามเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี จึงมีการเข้าสกัดรถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 ราย ทราบต่อมาชื่อ นายสุชาติ หรือ อ๊อฟ เบญมาตร อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 29 ม.9 บ้านชะโนดน้อย ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ส่วนอีกคนซึ่งเป็นผู้ขับขี่ทราบชื่อภายหลังว่า นายบัณฑิต หรือ เอก ดาแพง ซึ่งเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันกับนายอ๊อฟ อาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่ ทิ้งรถจักรยานยนต์วิ่งหลบหนีไป ต่อมาจึงได้ทำการตรวจค้น ด้วยการให้นายอ๊อฟพาไปยังจุดที่โยนทิ้งของ พบถุงผ้าสีส้ม ไม่มีหูหิ้ว เปิดดูภายในพบห่อวัตถุสี่เหลี่ยมผืนผ้า หุ้มด้วยวัสดุสีเขียว และห่อด้วยพลาสติกใสอีกชั้น จำนวน 2 แท่ง ทำการแกะดู พบเฮโรอีนบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ทราบภายหลังว่าเป็นเฮโรอีนชนิดเกรดเอ จึงนำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปสอบสวนเพื่อขยายผลถึงนายทุนผู้จ้างวาน

 

 

               เบื้องต้น นายอ๊อฟรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนด้วยเงินจำนวน 20,000 บาท อ้างว่าให้ไปรับกัญชาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยจะมีคนขับเรือข้ามฟากจากประเทศเพื่อนบ้านมาส่งให้ โดยไม่รู้ว่าสิ่งของที่ตนเองไปรับเป็นเฮโรอีน ก่อนหน้าที่จะมารับสิ่งของตนและนายเอกได้เสพยาบ้ามาก่อนเพื่อให้มีความกล้า ฮึกเหิม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เฝ้ารอให้นายทุน โทร.เข้ามาที่มือถือของนายอ๊อฟ เพื่อวางแผนจับกุม แต่คาดว่านายทุนดังกล่าวคงจะทราบว่าคนที่ว่าจ้างนั้นได้ถูกจับกุมแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองร้อย ตชด.236 แล้วนำของกลางไปให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน บก.ภ.จว.นครพนม ตรวจสอบจึงทราบว่า เฮโรอีน ทั้ง 2 แท่ง มีน้ำหนักสุทธิ 740 กรัม หากเล็ดลอดไปพื้นที่ชั้นในจะมีราคาสูงถึง 3,700,000 บาท และการจับกุมยาเสพติด ชนิด เฮโรอีน นี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกของจังหวัดนครพนม อาจจะเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ในพื้นที่ ซึ่งผู้เสพต้องมีฐานะดีเท่านั้น ถึงจะสามารถซื้อมาเสพได้ นำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป