ไล่ออก ด.ต. - หมายจับแฟนผู้ต้องหาหนีห้องขัง

 

               บ่ายวันนี้ พล.ต.ต.สมชาย นุ่มโต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้เรียกตัวรอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ที่รับผิดชอบคดีเข้าพบ เพื่อสรุปความคืบหน้า กรณีผู้ต้องหาหลบหนีจากห้องขัง สภ.โพนทอง หลังจากที่ เมื่อเวลา 11.15 น. (22 พ.ค.) พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ได้เสนอขออนุญาตศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ออกหมายจับ นายสุรศักดิ์ หรือ อาท คันทมาตร์ และ นายสุรชัย หรือ ต้อม ภูมิภาค สองผู้ต้องหาคดีมียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งพากันหลบหนีจากห้องขัง สภ.โพนทอง พร้อมด้วย น.ส.เสาวลักษณ์ เสมอใจ อายุ 21 ปี แฟนของนายสุรชัย และ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี แฟนของนายสุรศักดิ์ ซึ่งพาสองผู้ต้องหาหลบหนีจากห้องขัง สภ.โพนทอง เพื่อนำมาดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาอยู่ในห้องควบคุม หลบหนี ขณะเดียวกันได้เสนอความเห็นให้ ด.ต.ฉลาด แน่นอุดร สิบเวร ซึ่งเป็นคนเปิดกุญแจประตูห้องขังให้ 2 ผู้ต้องหาออกมาพบกอดแฟน ก่อนพากันหลบหนี

               ความคืบหน้า การสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรง และคดีอาญา ด.ต.ฉลาด ถูกตั้งข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ ขณะรายงานข่าวยังไม่ทราบผลการเสนอ พิจารณาให้ออกจากราชไว้ก่อน

               ซึ่ง พล.ต.ต.สมชาย เปิดเผยว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าด้านการดำเนินการ โดยศาลได้ออกหมายจับ น.ส.เสาวลักษณ์ และ น.ส.เอ แล้ว พร้อมกับส่งภาพประสานไปยังทุกท้องที่ เพื่อขอความร่วมมือการแจ้งเบาะแสจับกุมพร้อมกับผู้ต้องหา 2 คนที่หลบหนีด้วย เชื่อมั่นว่ายังคงกบดานในพื้นที่และยังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีการประสานบล็อกทุกพื้นที่ และประสาน ตร.ตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. เฝ้าระวังการหลบหนีออกนอกประเทศแล้วด้วย 

               พ.ต.อ.วิบุลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า หลังศาลได้อนุมัติหมายจับแฟนของผู้ต้องหาทั้ง 2คน ที่มานำตัวผู้ต้องหาหลบหนีจาก สภ.โพนทอง แล้วได้มีการกระจายหมายจับออกไปทุกพื้นที่

               สำหรับในส่วนของ ด.ต. ที่มีคลิปลักษณะปล่อยตัวผู้ต้องหา ซึ่ง ผกก.โพนทอง เสนอเรื่องพิจารณาให้ลงโทษนั้น ที่ประชุม ภ.จว. วิเคราะห์จากสถานการณ์และภาพที่ปรากฏ มีการตั้งกรรมการตรวจสอบสวนเอาผิดทางวินัยตำรวจก่อนหน้านั้นแล้ว ได้ข้อสรุปว่า จะมีพฤติกรรม...เข้าข่ายกระทำความผิดด้วยเจตนาชัดเจน ในการปล่อยตัวผู้ต้องหาหลบหนี จึงได้มีการเซ็นคำสั่ง ให้ออกจากราชการแล้ว ส่วนหลังจากนั้นมีผลการสอบสวนในประเด็นอื่น หากพบว่าเป็นความผิดกระทงอื่นก็จะตั้งข้อหาเพิ่มเติม หรือหากพบว่ามีคนอื่นที่เข้าข่ายเกี่ยวข้อง ก็จะสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป