“ธรรมบรรยาย” ใต้ร่มโพธิ์ที่พ่อปลูก

โครงการ “ส่งเสริมจริยธรรมองค์การ” เป็นโครงการของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา ๓ ประโยชน์ที่ว่า กิจการของบริษัทต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน และต่อบริษัท โดยมุ่งเน้นการปลูกฝังพนักงานและชาวชุมชนรอบข้างโรงงานให้เป็นคนดีมีจริยธรรม ด้วยการนิมนต์พระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงมาบรรยายธรรมะทั้งนี้จะให้โรงงานแต่ละแห่งกำหนดวันที่จะฟังธรรม พร้อมกำหนดว่าอยากจะได้พระนักเทศน์ชื่อดังรูปใดไปเทศน์ โดยประสานงานมายังสำนักงานกลาง ให้การฟังธรรมเป็นเวลาทำงาน และบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ล่าสุดมีการจัด “ธรรมบรรยาย ใต้ร่มโพธิ์ที่พ่อปลูก" ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปลูกไว้ เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๒๓ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และเปิดโอกาสให้ชาวบ้านห่างไกลได้ร่วมแสดงความอาลัยด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีใต้ต้นโพธิ์ท่ามกลางแสงเทียนและแสงดาวมีเปลวเทียนเลข ๙ แทนความจงรักภักดี

นายชินทัต เวียร์สุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสำนักส่งเสริมจริยธรรมองค์การ ซีพีเอฟ บอกว่า กิจกรรมนี้เป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้รับฟังธรรมะที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องใกล้ตัว ในรูปแบบของการบรรยายธรรมะ การสนทนาธรรม และการแลกเปลี่ยประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ซึ่งในแต่ละครั้งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากไม่เพียงแต่ผู้บริหารและพนักงานของซีพีเอฟเท่านั้น บริษัทยังเชิญชวนชาวชุมชนบริเวณรอบโรงงานมาร่วมกิจกรรมด้วยทุกครั้ง ทั้งส่วนราชการ องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล คณะครูอาจารย์ นักเรียน มีหน่วยงานต่างๆ สนใจนำคณะเข้าฟังธรรมะ

สำหรับประเด็นบรรยายธรรมในช่วงนี้จะเน้นเทศน์เรื่อง “พระราชาผู้ทรงธรรม” ทั้งนี้ ได้นิมมนต์พระครูสุนทรธรรมพาที วัดนิมมานรดี เขตภาษีเจริญ กทม. กลุ่มธรรมะอารมณ์ดีมาบรรยายธรรม และเปลี่ยนสถานที่จัดกิจกรรมจากในห้องประชุม มาเป็นการจัดท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงปลูกภายใต้ความเงียบสงบในยามเย็น ประดับเทียนประทีปเสมือนแสงทองนำความสว่างสู่ทางชีวิต พร้อมสวดมนต์ทำวัตรเย็น และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

“คุ้มเกินคุ้ม คุ้มทั้งเงินคุ้มทั้งเวลา ทางสำนักเชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้กิจกรรมประสบความสำเร็จ คือ ความใส่ใจ เราไม่ได้เพียงนิมนต์พระมาเทศน์แล้วจบไป แต่ยังวิเคราะห์เชิงลึกทั้งเนื้อหา คนในโรงงาน พระที่จะมินมต์ รวมถึงสภาพแวดล้อม เพื่อส่งธรรมอันบริสุทธิ์ตรงถึงผู้ฟังให้สัมฤทธิ์ผล เป็นทางสว่างสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติและปัญญาภายใต้โครงการ “ธรรมะบรรยาย” ชีวิตประจำวัน ให้มีสติในการเรียน การทำงาน มีหลักในการใช้ชีวิตมากขึ้น และยังสามารถนำความรู้ที่ได้ในการสอบมาถ่ายทอดให้รุ่นน้องได้อีกด้วย” นี่เป็นคำยืนยันของนายชินทัต

ณ วันนี้ โครงการธรรมะบรรยาย หรือนำธรรมเข้าโรงงาน ของ ซีพีเอฟ ดำเนินงานมาเป็นปีที่ ๕ โดยมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท เอาจริงเอาจัง ทำเป็นงานหลัก ทำเป็นประจำทุกโรงงานที่สามารถจัดได้อย่างน้อยโรงงานละ ๓-๔ ครั้งต่อปีต่อโรง ผู้นำทุกระดับและผู้บริหารกลุ่มธุรกิจต่างๆ ให้ความสำคัญ สนับสนุนเต็มที่เพราะคนดีทำให้งานดี งานปลอดภัยไม่เสียหาย ประหยัดงบประมาณ พนักงานรักบริษัท บริษัทรักพนักงาน เจ้านายรักลูกน้อง ลูกน้องรักกัน พนักงานรู้จักหน้าที่ ทุกคนรู้จักหน้าที่ เห็นอกเห็นใจมุ่งมั่นให้บริษัทก้าวหน้าอย่างที่เห็น