"มณัญญา" บุกกรมวิชาการเกษตร ทวงถามเอกสารสต๊อกสารพิษ

 

 

          เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 62 - นางสาวมณัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเดินทางมาสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ว่า เพื่อมาทวงเอกสารเกี่ยวกับสต๊อกสารเคมีพิษภาคการเกษตรที่มีอยู่ในประเทศไทย เพื่อรวบรวมเอกสารทั้งหมด และในวันนี้ได้เอกสารค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แล้ว เพราะได้ติดตามเอกสารมาหลายวันแล้ว เราก็อยากจะทำให้เรียบร้อย

 

 

           “ก็บอกเขาไปว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มณัญญา ไทยเศรษฐ์ คุมกรมวิชาการเกษตร แต่ถ้าคิดว่าคุณไม่ฟัง คุณก็ไปเอาคนมาถอดฉันออกไป ถ้าคุณมาปลดฉันออกไปเมื่อไหร่ ฉันจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับตรงนี้ แต่ตอนนี้ ดิฉันยังอยู่ตรงนี้อยู่ คุณก็ต้องเชื่อฟังฉัน” รมช.เกษตรฯ กล่าว

 

           ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การสั่งการระบบราชการของประเทศไทยไม่ค่อยจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะที่ รมช.เกษตรฯ จะต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง ในส่วนราชการระดับสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยราชการในสังกัดกรมวิชาการเกษตร เพื่อต้องการมาตามหาเอกสารที่ได้เคยขอรายละเอียดจากส่วนราชการนี้ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในการทำงาน

 

           ขณะที่นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร กล่าวว่า นางสาวมนัญญา มาตามงานที่ได้สั่งการไปว่ามีการดำเนินการไปถึงไหน และเป็นอย่างไรแล้วบ้าง ท่านลงมาตามงานเท่านั้นเอง 

 

           “ทางกรมวิชาการเอง ก็ให้ความร่วมมือดี เพราะท่านลงมาถึงผู้ปฏิบัติ ลงมาถึง ผอ.ที่ควบคุมกำกับดูแล ซึ่งข้อมูลที่ท่าน รมช.มนัญญา ต้องการ ทางนี้ก็จัดให้ไปได้ เพราะท่านมากรม ท่านมาด้วยความหวังดี เพื่อต้องการข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจริงว่ามีความถูกผิดอย่างไร เพื่อเอาไปใช้ในภารกิจหน้าที่ของท่าน ไม่ได้มาทำอะไรกับใครหรอก มาเพื่อจะถามว่าข้อมูลเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าเราไม่ลงมาพบกับคนทำ บางทีข้อมูลที่เราได้อาจจะไม่ครบถ้วน แต่วันนี้ข้อมูลที่ได้มาครบถ้วน เพราะเราได้ข้อมูลจากแหล่งของข้อมูล สามารถจะชี้แจงทุกคนได้ว่า นี่คือข้อมูลที่เป็นจริง” นายฉกรรจ์ กล่าว       

 

          นายฉกรรจ์ กล่าวว่า นางสาวมนัญญา เป็นคนขยัน และสั่งการด้วยความเจตนาที่หวังดี แต่ที่ต้องมาเอาข้อมูลเอง เพราะเป็นตัวตั้งตัวตีในการยกเลิกสาร 3 ตัว จึงต้องมีข้อมูล support ที่ถูกต้อง การที่มากรมวิชาการ ในครั้งนี้ ไม่ใช่มาทำอะไรกรม ตนก็เพิ่งรู้ แต่เป็นเรื่องที่ดี ที่ รมช.เกษตรฯ ลงมาถึงผู้ปฏิบัติ ทำให้มีความเข้าใจกันเรื่องข้อมูล ถ้าเราเอาข้อมูลจากมือ 2 มือ 3 ไปใช้ บางทีข้อมูลมีการแปลไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี.