อุบลฯวิกฤติสุดในรอบ 20 ปี

 

13  กันยายน 2562  รมว.เกษตรฯสั่ง อธิบดีกรมชลฯลงแก้วิฤกติน้ำท่วม จ.อุบลราชธานี อยู่พื้นที่แก้ปัญหาน้ำด้วยตนเอง ชี้ท่วมหนักสุดในรอบ20ปี ย้ำต้องเร่งผลักดันน้ำให้หมดก่อนสิ้นเดือนนี้ 

 

 

 

 

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำท่วมจ.อุบลราชธานี ครั้งนี้มีระดับสูงกว่าปี 2545 และ 54 โดยระดับน้ำสูงสุด10.83เมตร ท่วมตลิ่งฝั่งอ.วารินทรชำราบ ไหลผ่านตัวเมืองอุบลฯ วันที่ 13 ก.ย.นี้ ได้สั่งให้นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ลงไปตั้งศูนย์เฉพาะกิจแก้ปัญหาอุทกภัย ที่จ.อุบลฯวันที่ 14 ก.ย.และอยู่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ด้วย พร้อมกับระดมเครื่องมืออุปกรณ์ ผลักดันน้ำออกแม่น้ำโขงให้ไวที่สุด โดยได้ย้ำให้สถานการณ์น้ำคลี่คลายกลับสู่ปกติก่อนสิ้นเดือนนี้ หากฝนไม่ตกมาเติม เพื่อลดความเดือดร้อนประชาชนให้น้อยที่สุด

 

"ต้องใช้เครื่องมือผลักดันน้ำออก ไปให้ได้เร็วและหน่วงน้ำบางส่วนเข้าไว้ในทุกแก้มลิงตอนนี้เต็มหมดทุกแห่งตลอดแนวลุ่มน้ำชี พร้อมกับดันน้ำลุ่มน้ำมูล ออกให้มากที่สุด อีกทั้งระดับน้ำแม่น้ำโขง ยังมีมากด้วย  จึงต้องใช้การบริหารจัดการน้ำ ทั้งหน่วงน้ำ และผลักดันน้ำ เมื่ออธิบดีกรมชลฯไปตั้งศูนย์วันสต็อปในพื้นที่เพราะมวลน้ำมาเยอะมาก ผมมอบอธิบดีกรมชลฯลงไปอยู่แก้ปัญหาด้วยตนเอง จะทำให้การบูรณาการต่างๆทำได้เต็มที่"

 

ที่ผ่านมาปริมาณฝนมาก ตกเพิ่มเรื่อยๆ หน่วงน้ำไว้ทุกแก้มลิง ตลอดลำน้ำ ก่อนมาถึงจ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธรและจ.อุบลราชธานี ขอให้ประชาชน อุ่นใจ ว่ากรมชลฯทำงานเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน สิ่งสำคัญคือการดันน้ำให้ไวที่สุด ระดมเครื่องมือต่างๆไปทั้งหมด ทุกหน่วยงานเข้าช่วยกันตลอด24ชม. ตอนนี้เฝ้าระวังเพราะยังมีความกดอากาศต่ำ แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าฝนจะมาอีกหรือไม่  กรมชลฯมีหน้าที่ผลักน้ำให้ออกให้หมด ก่อนสิ้นเดือนนี้”นายเฉลิมชัย กล่าว

 

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมจ.อุบลราชธานี ครั้งนี้ ถือว่าท่วมหนักมากในรอบ 20ปี และระดับน้ำสูงกว่าปี พ.ศ.2545 และ พ.ศ.2554 จากระดับ 10.77 เมตร และ 9.81 เมตร ขณะที่ปีนี้ ระดับน้ำอยู่ที่ 10.83 เมตร

 

 

ทั้งนี้หลังจากมวลน้ำท่วมหลายจังหวัดภาคอีสานไหลมารวมกันที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งพื้นที่ภาคอีสานจะมีลุ่มแม่น้ำอยู่ 2 สายหลักคือ ลุ่มน้ำชี กับลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำชี ต้นน้ำอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ส่วนลุ่มน้ำมูลต้นน้ำอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งลุ่มน้ำทั้ง 2 จะไหลมาบรรจบกันที่ จ.อุบลราชธานี แล้วออกแม่น้ำโขง ตรงนี้เรียนว่า น้ำมาออกที่อุบลฯ ทั้งฝนจากพายุโพดุล และคาจิกิ ทิศทางพายุจะวิ่งผ่านอีสานตอนบน ทั้งหมดทั้งปวงก็จะมีลำน้ำสาขามาลงลุ่มน้ำชี

 

จากนั้นก็มาลงลุ่มน้ำมูล ปริมาณน้ำเลยลงมาที่ตัวเมืองอุบลฯ และน้ำส่วนเกินจะระบายออกไปผ่านทางสถานีวัดน้ำ m7 ดังนั้นมวลน้ำที่มาจากขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ จะผ่านตรงนี้ทั้งหมดจ.อุบลราชธานี เป็นจังหวัดปลายสุดในการรับน้ำ เป็นท่อระบายน้ำออกแม่น้ำโขง

 

 

ทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด ระดับน้ำที่ท่วมในอุบลฯจะขึ้นสูงสุดในวันพรุ่งนี้ (13 กันยายน 2562 ) เวลา 11.00 - 13.00 น. ระดับน้ำประมาณ 15.7 -15.8 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนที่ m7 ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งฝั่งอ.วารินทรชำราบ จะอยู่ที่ประมาณ 10.70-10.83เมตร และหลังจากนั้นระดับน้ำจะทรงตัว คาดการณ์ว่าน้ำจะลดลงช่วงปลายเดือนกันยายน

 

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า กรมชลประทาน ได้เร่งระบายน้ำโดยการติดเครื่องผลักดันน้ำที่ อ.พิบูลมังสาหาร เพื่อดันให้น้ำไหลลงสู่น้ำโขงเร็วขึ้น ส่วนตรงที่ลุ่มต่ำ เป็นบ้านเรือนประชาชนเราก็ใช้เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกโดยเร็วเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย