"ยางอินเดีย"ต้นประดับ ราคาดี

              ภาวะการใช้ไม้กระถางประดับนอกเทศกาลที่นับเป็นช่วงเวลาโดยส่วนใหญ่ของโอกาสการใช้ประดับยังอาคารสถานที่ต่างๆตลอดทั้งปี นอกจากต้องมีความเหมาะสมลงตัวพอดีกับสถานที่นั้นๆแล้ว ประเด็นถัดมาคงต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าต่อการใช้งานประกอบไปพร้อมๆกันด้วย

            ซึ่งการหาไม้ประดับที่มีคุณสมบัติดังกล่าวให้สอดคล้องกับความต้องการที่นอกเหนือจากความชอบเป็นส่วนตัวแล้ว ยังต้องรู้ถึงข้อมูลพื้นฐานตลอดจนศักยภาพของไม้ชนิดนั้นเพื่อมาใช้ประดับแบบตอบโจทย์ได้หลายมิติ 

 

             ที่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเด่นด้านความสวยงาม ทนทาน ปลูกเลี้ยงง่ายและเหมาะสมกับสถานที่ที่ถูกกำหนดในการใช้ประดับโดยเฉพาะ สำหรับเพื่อปลูกภายในอาคารและถูกจำกัดปริมาณแสงที่เหมาะสมเป็นประเด็น ทำให้ไม้เมื่อถูกนำไปใช้ยังสภาพแวดล้อมดังกล่าวไปสักระยะหนึ่งก็จะแสดงอาการให้เห็นได้ทางกายภาพอย่างสังเกตได้โดยชัดเจน

             การเลือกไม้ต้นสำหรับใช้ประดับภายในอาคารโดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นการเลือกใช้ตามทิศทางของชนิดไม้ที่เป็นกระแสและมีการผลิตที่สอดคล้องตามต้นแม่พันธุ์ที่มีอยู่ หากมีความต้องการใช้ไม้ประดับในระบบ ณ ช่วงเวลานั้นเกินกว่าความสามารถในการผลิตก็จะส่งผลถึงราคาให้ขยับสูงขึ้นไปตามความต้องการใช้โดยแทบจะทันที

              เหมือนอย่างต้นยางอินเดีย ที่เกิดกระแสการใช้ต้นประดับและมีการซื้อหามาพร้อมๆกัน ทั้งที่ไม้ชนิดนี้มีการใช้แบบปกติมาอย่างยาวนานแล้ว อาจด้วยภาวะการใช้ไม้อื่นบางชนิดในช่วงก่อนหน้านี้ถึงจุดอิ่มตัวจนต้องหาไม้อื่นที่มีอยู่เข้าไปจัดวางทดแทน ซึ่งด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่ดูจะมีลักษณะอันโดดเด่นในไม้ชนิดนี้ หรือมิได้ด้อยไปกว่าไม้ที่ใช้อยู่แต่ก่อน และกลับมีบางลักษณะเพิ่มมากไปกว่ารูปลักษณ์เดิมที่เคยนำมาใช้ ทั้งสีสันที่ต่างไปจากไม้ในสกุลเดียวกัน โดยแต่เดิมส่วนใหญ่พบเห็นได้เฉพาะพันธุ์ที่มีใบสีเขียวเท่านั้น จึงทำให้เกิดการใช้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนไฟลามทุ่งที่มีกิ่งไม้ใหญ่เรียงรายเป็นเชื้ออยู่ด้วย

             กระแสการใช้ยางอินเดียประดับนั้นมีมานานแล้ว แต่ดูเหมือนเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นในช่วงปัญหาค่าฝุ่นละออง pm 2.5 ในบรรยากาศ ส่งผลกระทบถึงความรู้สึกแบบกระจายตัวเชิงกว้าง จนทุกฝ่ายต่างพยายามช่วยกันแก้ปัญหา หลายคนที่มีความรู้และเข้าถึงเรื่องการใช้ไม้ประดับเพื่อดักจับฝุ่นและฟอกอากาศก็จะหาไม้หลากหลายชนิดที่มีอยู่มาปลูกเพื่อการดังกล่าว

            และหนึ่งในไม้ประดับที่ถูกหยิบมาใช้ปลูกประดับภายในที่ค่อนข้างทนทานมากอีกชนิดคือ“ยางอินเดีย”นั่นเอง ทำให้เกิดกระแสการใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่หลายภายหลังจากที่มีตัวอย่างการใช้ประดับโดยได้เห็นมาสักระยะหนึ่งแล้ว และชนิดพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจนเป็นกระแสลุกลามให้สะเทือนไปถึงแปลงผลิตที่หลายแหล่งมีเพียงไม้ต้นติดสวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเป็นพันธุ์ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากยางอินเดียใบเขียวที่ส่วนใหญ่ปลูกเพื่อใช้งานตัดใบ รวมถึงมีความพิเศษมากไปกว่า และมีมูลค่าสมกับความแปลก สอดคล้องไปกับความต้องการเลยทีเดียว

            ชนิดพันธุ์เพื่อปลูกประดับที่ต่างไปจากต้นเดิมที่มักเห็นกันอยู่เป็นประจำ และต่างไปจากพันธุ์ที่ใบมีสีเขียวสดแล้ว ก็ยังมีอีกหลายชนิด ทั้งพันธุ์ที่ให้ใบด่างเหลืองซึ่งก็พบเห็นได้โดยทั่วไปอีกชนิดแทบไม่แพ้ต้นเดิมที่มีใบเขียวเลยทีเดียว และหรือชนิดพันธุ์อื่นๆที่แตกต่างกันไปทั้งขนาดต้นและใบที่เล็กกว่าปกติจนเรียกว่าเป็นพันธุ์แคระ หรือจะมีความต่างที่สีของใบให้ดูแตกต่างกันออกไป และในบางพันธุ์จะมีหลากสีภายในใบที่เรียกว่าด่างก็มี 

     

      ส่วนที่แปลกนี้มักจะกลายเป็นไม้สะสมไปในที่สุดซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาก จนหากมีโอกาสได้ขยายพันธุ์ก็มักเป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภคต่อๆไป จนทำให้ต้นยางอินเดียเป็นไม้ประดับที่มีการเพิ่มมูลค่าได้ง่าย และมีการกลายพันธุ์ที่แปลกออกไปจากสภาพความด่างที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากหลังการตัดขยาย

           โดยพันธุ์แปลกดังกล่าวหากปลูกเลี้ยงและจัดการในกระบวนการ กำหนดพันธุ์ขยายและพันธุ์ใหม่ๆได้ดีแล้ว ก็จะยิ่งเป็นการสร้างคุณค่าและราคาได้ไม่น้อยไปกว่าที่จะปลูกและขยายตามรูปแบบเดิม ให้ได้เป็นต้นทางของต้นพันธุ์ชนิดใหม่ๆที่กลายพันธุ์แบบมีเสถียรภาพในไม้ต้นชนิดนี้ ที่มีราคาดีในพันธุ์ที่แตกต่างจากเดิมอยู่แล้วให้ได้เกิดความแปลกใหม่บนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

         โดยเฉพาะไม้ใบใช้ต้นประดับที่มีการเติบโตของตลาดไม่เฉพาะเพียงแต่การใช้ในบ้านเราเท่านั้น!