นาดินเค็ม ผลผลิตเพิ่ม ลดต้นทุน

23 สิงหาคม 2562 นางนงนุช ศรีพุ่ม ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินขอนแก่น สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 5 กรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า สถานีพัฒนาที่ดินขอนแก่นได้ขยายผลการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มแบบบูรณาการในจังหวัดขอนแก่น  

 

ทั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นดำเนินการในพื้นที่ที่ประสบปัญหาดินเค็มและส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตรของเกษตรกร โดยเฉพาะอำเภอบ้านไผ่ ซึ่งมีพื้นที่ดินเค็มมากถึง 1.5 แสนไร่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มจนได้ต้นแบบอยู่ที่ ตำบลเมืองเพีย อำเภอบ้านไผ่ และนำไปสู่การขยายผลดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่อื่นต่อไป

 

ล่าสุดดำเนินการที่ บ้านทุ่งมน ตำบลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาดินเค็มน้อยถึงปานกลาง เกษตรกรปลูกข้าวได้ผลผลิตค่อนข้างต่ำ จึงได้นำเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินที่เหมาะสมกับพื้นที่เข้าไปดำเนินการ ได้แก่ การปรับรูปแปลงนา ทำคันนาให้ใหญ่ขึ้น ส่งเสริมการไถกลบตอซัง และใช้ปุ๋ยพืชสดเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน รวมถึงทำระบบป้องกันการแพร่กระจายของดินเค็ม 

 

 

 

 

นายเจริญชัย กันยานุช เกษตรกรบ้านทุ่งมน กล่าวว่า ผมมีพื้นที่ทั้งหมด 29 ไร่ แบ่งพื้นที่ทำการเกษตรออกเป็น ทำนา 22 ไร่ แบ่งเป็นข้าวพันธุ์ กข 15 ปลูกไว้ขาย และ กข 6 ปลูกไว้บริโภคเองและขายบางส่วน ปลูกหญ้าเนเปีย 1 ไร่ สระน้ำ 1 ไร่ ที่พักอาศัยและพื้นที่เลี้ยงสัตว์ 5 ไร่ แต่เดิมพื้นที่มีปัญหาดินเค็มน้อย ดินแน่นทึบ ขาดความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตตกต่ำ

 

แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มแบบบูรณาการในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อย ของสถานีพัฒนาที่ดินขอนแก่น ในปี 2559 ก็ได้รับการสนับสนุนเข้ามาปรับรูปแบบแปลงนาให้ดีขึ้น ปรับคันนาให้ใหญ่ขึ้น พร้อมกับนำเทคโนโลยีของกรมพัฒนาที่ดินเข้ามาใช้ในแปลงนา ทั้งส่งเสริมให้ไถกลบตอซังข้าวแล้วใช้วัสดุปูนโดโลไมต์ปรับปรุงดิน จากนั้นก็ปลูกปอเทืองพืชปุ๋ยสดแล้วไถกลบ เพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินก่อนการปลูกข้าว ส่งผลให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น โครงสร้างดินดีขึ้น ดินร่วนซุย 

 

 

 

หลังจากใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงดินทำให้ดินดีขึ้น สิ่งที่เห็นชัดเจนคือช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้จากเคยใช้ปุ๋ยประมาณ 2 กระสอบต่อไร่ ตอนนี้ลดลงมาเหลือ 1 กระสอบ ปุ๋ยกระสอบละประมาณ 800 บาท พื้นที่นา 20 ไร่ ต้นทุนลดลงไปครึ่งหนึ่งหรือลดลงไปไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท ขณะที่ผลผลิตข้าว กข 6 เพิ่มขึ้นจากที่เคยได้ 300-400 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 500-600 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 50% และคุณภาพข้าวเมล็ดเต็ม ปริมาณข้าวลีบน้อยลง 

 

“เมื่อก่อนเคยปลูกข้าวได้แค่บริโภคในครัวเรือน ตอนนี้ก็สามารถจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว จึงอยากขอบคุณกรมพัฒนาที่ดินและเจ้าหน้าที่จากสถานีพัฒนาที่ดินขอนแก่น ที่นำโครงการดีๆ เข้ามาช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาให้สามารถใช้พื้นที่ดินเค็มทำการเกษตรได้ดีขึ้น ซึ่งส่วนตัวได้เห็นความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ดินเค็ม ทำให้เชื่อมั่นในเทคโนโลยีของกรมพัฒนาที่ดิน และพร้อมทำตามคำแนะนำ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่นาของตนเองให้ดีขึ้น ปลูกข้าวได้ผลดีมีรายได้ที่ดีต่อไป” นายเจริญชัย กล่าว