ข่าว

"นายกฯ"ตรวจเยี่ยมหน่วยฝนหลวง-ให้กำลังใจนักบิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯ"ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขภัยแล้งภาคอีสาน ขาดน้ำกินใช้ การเกษตร ตรวจเยี่ยมหน่วยฝนหลวง จ. สุรินทร์ ให้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ นักบินฝนหลวง และเหล่าทัพ

 

19 สิงหาคม 2562 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ 19 ส.ค.พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.สุรินทร์  

 

ทั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ รวมถึงให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ นักบิน ทีมงานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรและเหล่าทัพด้วย

 

สำหรับผลการปฏิบัติการ ฝนหลวงเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2562 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 9 หน่วยปฏิบัติการ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร พื้นที่ประสบภัยแล้ง และพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ทำให้มีฝนตก ในหลายพื้นที่ของ จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ชัยภูมิ ขอนแก่น หนองบัวลำภู นครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ อุบลราชธานี

 

สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนวังร่มเกล้า เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำมูลบน เขื่อนลำแชะ เขื่อนลำปลายมาศ และอ่างเก็บน้ำจำนวน 12 แห่ง ขณะที่หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ตาก ไม่มีฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากกลุ่มเมฆไม่สามารถพัฒนาตัวต่อเป็นเมฆฝนต่อได้

 

ด้านแผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 18 ส.ค.กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ได้ออกประกาศเขตพื้นที่ที่มีจังหวัดประสบปัญหาฝนแล้ง/ฝนทิ้งช่วง มีจำนวน 10 จังหวัด (38 อำเภอ 270 ตำบล 3,253 หมู่บ้าน) ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ สระแก้ว และพิษณุโลก ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของปริมาณน้ำที่เก็บกัก เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 19 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 164 แห่ง

 

การคาดการณ์พื้นที่ประกาศเสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมากจากกรมอุตุนิยมวิทยาวันนี้ คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคใต้ชายฝั่งทะเลอันดามันบริเวณ จ.ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ด้านแผนที่ปริมาณความชื้นในดินของกรมทรัพยากรน้ำและแผนที่ปริมาณฝนตกสะสมในช่วง 7 วัน (11-17 ส.ค.62) พบว่า มีพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมน้อยกว่า 10 มิลลิเมตร อยู่ที่บริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างบางส่วน ภาคกลาง และภาคคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยยังคงมีความต้องการน้ำเพิ่มเติมอีก ซึ่งทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อสภาพอากาศเหมาะสม

 

สำหรับการติดตามสภาพอากาศวันนี้ ( 18 สิงหาคม ) พื้นที่ภาคกลาง จากผลตรวจสภาพอากาศของสถานีเรดาร์ตาคลี จ.นครสวรรค์ พบว่ามีความชื้นที่ระดับการเกิดเมฆ 68% ความชื้นที่ระดับการพัฒนาตัวของเมฆ 81% ค่าดัชนีการยกตัวของอากาศ -0.5 และความเร็วลมที่ระดับการเกิดเมฆ 41 กม./ชม. หน่วยปฏิบัติการฯ จ.กาญจนบุรี จึงวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบริเวณพื้นที่การเกษตร จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเดื่อ อ่างเก็บน้ำกระเสียว จ.สุพรรณบุรี และอ่างเก็บน้ำห้วยเทียน จ.กาญจนบุรี


พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากผลการตรวจอากาศของสถานีเรดาร์ราษีไสล จ.ศรีสะเกษ สถานีเรดาร์พิมาย จ.นครราชสีมา และสถานีเรดาร์บ้านผือ จ.อุดรธานี พบว่ามีความชื้นที่ระดับการเกิดเมฆ 81% (ราษีไศล) 67% (พิมาย) 78% (บ้านผือ) ความชื้นที่ระดับการพัฒนาตัวของเมฆ 84 (ราษีไศล) 82% (พิมาย) 96% (บ้านผือ) ค่าดัชนีการยกตัวของอากาศ -0.9 (ราศีไศล) -2.4 (พิมาย) -3.0 (บ้านผือ) และความเร็วลมที่ ระดับการเกิดเมฆ 45 กม./ชม. (ราษีไศล) 41 กม./ชม.(พิมาย) 39 กม./ชม. (บ้านผือ)

 

หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ขอนแก่น จึงตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือบริเวณพื้นที่การเกษตร จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่น และหน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา วางแผนช่วยเหลือบริเวณพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา และ จ.ชัยภูมิตอนล่าง หน่วยปฏิบัติการฯ จ.สุรินทร์ วางแผนขึ้นบินปฏิบัติการบริเวณพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อ่างเก็บน้ำอำปึล จ.สุรินทร์ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก จ.บุรีรัมย์

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ